Think Big Act micro ในโลกยุค Customer Generate data (ความรู้รอบตัวsme17)
Think Big (data ) Act micro (campaign)
เราเข้าสู่ยุคใหม่ของเรื่องข้อมูลการตลาดแล้วครับพี่น้อง ก่อนหน้านี้นักการตลาดอาศัยข้อมูลเพื่อวางแผนcampaignการตลาดจากตัวเลขการขายที่มาจากยอดการขายออก
แบบเก่าหน่อยก็ดูจากยอดขายออกไปให้ลูกค้าแต่ละคนจากร้านของเรา
ต่อมาก็เอายอดขายออกไปจากร้านค้าเรามาพิจารณาข้อมูลร่วมกับการขายออกไปจากร้านค้าที่นำสินค้าเราไปขาย เพื่อความแม่นยำในการทำlocal campaign อาทิ
บริษัทเราส่งของไปขายให้7-11,Makro,lotus เราก็เอาข้อมูลนี้มาวิเคราะห์ ว่าจะทำการตลาดยังไงกับบริษัทเหล่านี้ให้เค้าซื้อเยอะ,ซื้อเพิ่ม,ซื้อต่อเนื่อง,ซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาก็มีการนำข้อมูลการขายออกของแต่ละสาขา7-11มาพิจารณา ทำไมร้านนี้ขายดี ทำไมร้านนั้นขายไม่ออก สินค้าเราอาจยังไม่ถูกใจตลาดตรงพื้นที่นั้น เกิดเป็นการทำกิจกรรมการตลาดเป็นจุดๆ
ทั้งหมดคือการใช้ข้อมูลการขายออกมาวิเคราะห์
แต่ในยุค ข้อมูลที่มหาศาลในโลกออนไลน์ user generation data เรามีเครื่องมือมาวิเคราะห์กันรึยัง มีคนพูดถึงสินค้าเราที่ไหน พูดอย่างไร ทำไมถึงพูดอย่างนั้น พูดไปแล้วมีใครเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน ส่งผลต่อแบรนด์หรือยอดขายเราทั้งนั้น
ส่วนหนึ่งของบทความ ดร.อธิป อัศวานันท์ กล่าวไว้ในกรุงเทพธุรกิจ
ถามตัวเองว่าวันนี้ธุรกิจเรามีการเก็บข้อมูลเหล่านี้มาสร้างประโยชน์ ทั้งแบบ realtime หรือ วางแผนยังไง
เช่นหากมีการพูดถึงสินค้าเราในต่างประเทศมากๆที่ๆเราไม่ได้มีร้านขาย เราจะใช้ช่องทางออนไลน์ไปขายได้หรือไม่ หรือ มีกระแสต่อต้านสินค้าเราในกลุ่มคนจังหวัดนี้ จะแก้ไขยังไง
ความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น สู้สู้นะครับ SME
เราเข้าสู่ยุคใหม่ของเรื่องข้อมูลการตลาดแล้วครับพี่น้อง ก่อนหน้านี้นักการตลาดอาศัยข้อมูลเพื่อวางแผนcampaignการตลาดจากตัวเลขการขายที่มาจากยอดการขายออก
แบบเก่าหน่อยก็ดูจากยอดขายออกไปให้ลูกค้าแต่ละคนจากร้านของเรา
ต่อมาก็เอายอดขายออกไปจากร้านค้าเรามาพิจารณาข้อมูลร่วมกับการขายออกไปจากร้านค้าที่นำสินค้าเราไปขาย เพื่อความแม่นยำในการทำlocal campaign อาทิ
บริษัทเราส่งของไปขายให้7-11,Makro,lotus เราก็เอาข้อมูลนี้มาวิเคราะห์ ว่าจะทำการตลาดยังไงกับบริษัทเหล่านี้ให้เค้าซื้อเยอะ,ซื้อเพิ่ม,ซื้อต่อเนื่อง,ซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาก็มีการนำข้อมูลการขายออกของแต่ละสาขา7-11มาพิจารณา ทำไมร้านนี้ขายดี ทำไมร้านนั้นขายไม่ออก สินค้าเราอาจยังไม่ถูกใจตลาดตรงพื้นที่นั้น เกิดเป็นการทำกิจกรรมการตลาดเป็นจุดๆ
ทั้งหมดคือการใช้ข้อมูลการขายออกมาวิเคราะห์
แต่ในยุค ข้อมูลที่มหาศาลในโลกออนไลน์ user generation data เรามีเครื่องมือมาวิเคราะห์กันรึยัง มีคนพูดถึงสินค้าเราที่ไหน พูดอย่างไร ทำไมถึงพูดอย่างนั้น พูดไปแล้วมีใครเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน ส่งผลต่อแบรนด์หรือยอดขายเราทั้งนั้น
ส่วนหนึ่งของบทความ ดร.อธิป อัศวานันท์ กล่าวไว้ในกรุงเทพธุรกิจ
"การหาเสียงของประธานาธิบดี Obama ในปี 2012 เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้งาน Big Data ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม Obama ใช้ฐาน Big Data คือฐานข้อมูลเชิงลึกของฐานเสียงหลายสิบล้านคน ที่มีตั้งแต่ อายุ เพศ อาชีพ จนกระทั่ง ข้อมูลการโต้ตอบกับทีมงาน และ กิจกรรมต่างๆ โดยละเอียด Obama ได้ตั้งทีม Data Scientist เพื่อทำการวิเคราะห์ด้วย Analytics อย่างละเอียดและแบ่งฐานเสียงเป็น Micro Segment จากนั้นได้กำหนดเป็น Action อย่างอัตโนมัติ ในรูปแบบของ Micro Campaign คือการส่งข้อความถึงฐานเสียงแต่ละคน ในเวลาที่ถูกต้อง และด้วยถ้อยคำที่ถูกต้อง ซึ่งถูก Customize ขึ้นมาสำหรับผู้รับโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละข้อความได้คำนวณอย่างอัตโนมัติแล้วว่า จะเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ผู้รับ ออกไปลงคะแนนให้ Obama สูงสุด โดยฐานเสียงแต่ละคน จะได้ข้อความที่แตกต่างกัน ซึ่งถูก Customize ขึ้นมาเฉพาะตัว เป็น Micro Campign สำหรับแต่ละบุคคล "
ถามตัวเองว่าวันนี้ธุรกิจเรามีการเก็บข้อมูลเหล่านี้มาสร้างประโยชน์ ทั้งแบบ realtime หรือ วางแผนยังไง
เช่นหากมีการพูดถึงสินค้าเราในต่างประเทศมากๆที่ๆเราไม่ได้มีร้านขาย เราจะใช้ช่องทางออนไลน์ไปขายได้หรือไม่ หรือ มีกระแสต่อต้านสินค้าเราในกลุ่มคนจังหวัดนี้ จะแก้ไขยังไง
ความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น สู้สู้นะครับ SME
ความคิดเห็น