โอบาม่า ชนะเลือกตั้งส่งผลดีต่ออาเซียน
ไม่แน่เราอาจจะได้เจอโอบาม่าตัวเป็นๆในไทยเร็วๆนี้ก็ได้ เพราะเป็นปธน.ที่ให้ความสำคัญกับอาเซียนมากที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา ไม่ใช้นโยบายกร้าวร้าวกับจีนแต่เน้นถ่วงดุลย์อำนาจ ไม่รู้จะเรียกว่าโอกาสหรืออุปสรรคเพราะประเทศที่เป็น รัชนก (แรงเงา) คงต้องคิดหนักว่าจะเลือกใคร
จากคอลัมน์ กาแฟดำ
โอบามา...ชนะเด็ดขาด หลังศึกสงครามหืดขึ้นคอ
ผมนั่งเขียนคอลัมน์นี้จากห้องส่ง Nation Channel เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้สัมผัสกับบรรยากาศการลุ้นนับคะแนน
การหย่อนบัตรเลือกตั้งสหรัฐ ตั้งแต่เช้าเมื่อวานจนรู้ผลว่า โอบามา จะได้เป็นประธานาธิบดีอีกหนึ่งสมัย
เป็นการรายงาน วิเคราะห์การเลือกตั้งมะกันที่สนุกที่สุดครั้งหนึ่ง
เพราะว่าช่วงแรกๆ ของวัน ไม่มีสำนักข่าวสหรัฐยักษ์ๆ รายไหนกล้าฟันธงว่าใครนำใครตาม หรือใครชนะแพ้ในสองสามชั่วโมงแรกเลย
ตอนสิบโมงเช้า คะแนนหน้าจอ Fox News ในห้องส่งของผม บอกว่า โอบามา กับ รอมนีย์ ได้คะแนน electoral votes 163-163 เท่ากัน
ขณะที่ คะแนนดิบ หรือ popular votes ของ รอมนีย์ มีสูงกว่า โอบามา ที่ 31 ล้านเสียง ต่อ 30 ล้านเสียง
แต่ทีวียักษ์ทุกช่องของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น CNN หรือ Fox News ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง ว่า รัฐ "สวิง" สำคัญๆ ที่จะชี้ชะตาผลการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไปทางของใคร
ผมเฝ้าดูคะแนนจริงที่นับไปได้ประมาณ 60% ของรัฐ "สมรภูมิ" เหล่านี้แล้ว ก็เห็นภาพของความสับสนที่จะเกิดขึ้น เพราะเกือบจะเท่ากันหมด
ไม่ว่าจะเป็น โอไฮโอ (18), เวอร์จิเนีย (13), หรือ ฟลอริดา (29) ซึ่งสามารถ "แกว่ง" ไปในทิศทางไหนก็ได้ทั้งสิ้น
ถึงเวลา 10.40 น. รอมนีย์ นำ โอบามา ไป 174-163 แต่ก็ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร เพราะรัฐไหนที่ "อยู่ในกระเป๋า" ใครก็ยังอยู่กับคนนั้น ยังไม่มี "เซอร์ไพรส์" อะไรที่จะทำให้เห็นแนวโน้มออกไปชัดเจนแต่อย่างไร
(ผมเริ่มคิดว่าทีมงานในห้องส่ง อาจจะต้องเตรียมข้าวห่อมารองท้อง เพื่อรายงานวิเคราะห์ผลเลือกตั้งยาวต่อเนื่องไปถึงบ่ายและเย็นของเวลาไทย...หรือหลังเที่ยงคืนไปถึงเช้าที่สหรัฐ)
ทวิตเตอร์ข้อความหนึ่งจากคนไทยที่เกาะติดข่าวนี้บอกว่า "ลุ้นสนุกกว่าเชียร์มวยเสียอีก!"
ข่าวทยอยเข้ามาว่าทั้งสองพรรคเตรียมกองทัพทนายความเอาไว้ฟ้องร้องหรือสู้คดีกันอย่างเข้มข้น เพราะมีสัญญาณว่าเมื่อคะแนนสูสีในแต่ละเขตเลือกตั้งเช่นนี้ ทุกคะแนนจะมีความหมาย และฝ่ายแพ้ก็จะฟ้องร้องเพื่อให้มีการตรวจสอบหรือนับคะแนนใหม่
ข่าวเข้ามาในช่วงเวลา 11.00 น. คนไทยที่อเมริกาส่งข่าวว่า คุณลัดดา "แทมมี" ดั๊กเวิร์ธ สาวมะกันเชื้อสายอเมริกันชนะเลือกตั้งตำแหน่ง ส.ส. เขตแปด รัฐอิลลินอยส์ สามารถคว่ำคู่แข่งโจวอช จาก Tea Party คู่แข่งเก่าในเวทีการเมืองระดับรัฐ
หากข่าวนี้ได้รับการยืนยัน คุณลัดดาก็จะเป็นคนอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรก ที่จะได้เข้าสภาคองเกรสของอเมริกาทีเดียว
ใกล้ๆ เวลาเดียวกันนี้ คะแนน electoral college ของ โอบามา ขยับขึ้นมาเป็น 244 รอมนีย์ ขยับขึ้นไปที่ 203
ถึงจังหวะนี้ ดูเหมือนว่า โอบามา จะเข้าใกล้ 270 เต็มที แต่นั่นแปลว่า รวม 55 เสียงของแคลิฟอร์เนีย (ของตายมาตลอด) เข้าไปแล้ว เหลือ 26 เสียงต้อง "หืดขึ้นคอ" สำหรับ โอบามา ทีเดียว
วิเคราะห์ ณ จุดนั้น ว่า ถ้า โอบามา ได้ ฟลอริดา 29 เสียง ก็ชนะทันที
เวลา 11.10 น. ฟอกซ์นิวส์ให้ โอบามา ชนะรัฐโอไฮโอ ซึ่งมี 18 เสียง ไต่ขึ้นมา 262
เวลา 11.15 น. NBC News ฟันธงเป็นสื่อมะกันเจ้าแรกว่า โอบามา ชนะเลือกตั้งแล้ว
คะแนนหน้าจอขึ้นให้ โอบามา 275 ต่อ รอมนีย์ 203
อีกไม่กี่นาทีต่อมา เว็บไซต์ Huffington Post ให้ โอบามา 284 ต่อ 203 ของ รอมนีย์
และคะแนน โอบามา ขยับขึ้นไปที่ 290 เวลาใกล้เที่ยงบ้านเรา
หมดสิ้นข้อสงสัยที่มีตั้งแต่เช้า
แต่คะแนนดิบ หรือ popular votes ที่ปรากฏหน้าจอให้ รอมนีย์ สูงกว่า โอบามา เล็กน้อยคือ 46.3 ต่อ 46.1 ล้านเสียง ซึ่งยังไม่ใช่คะแนนร้อยเปอร์เซ็นต์
ท้ายสุด คะแนนของ โอบามา ก็ยืนยันว่าเขาคือทางเลือกของคนอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย
คะแนน electoral votes สุดท้ายคือ 303 ต่อของรอมนีย์ 206
และคะแนน popular votes ของ โอบามา ก็เหนือกว่า รอมนีย์ ที่ 53,528,142 ต่อ 52,825,769 หรือ 50% ต่อ 49%
ถือว่า "ความนิยมส่วนตัว" ของคนอเมริกันต่อสองคนนี้ใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง
ช่วงเช้า รอมนีย์ บอกนักข่าวว่า "ผมเตรียมร่างคำปราศรัยชุดเดียวสำหรับชัยชนะเท่านั้น"
เป็นการแถลงหาเสียงกันถึงนาทีสุดท้ายจริง ๆ เพราะว่าขณะนั้นรัฐต่างๆ ทางตะวันตกยังไม่ปิดหีบเลือกตั้ง ยังไงๆ ก็ยังต้องสร้างภาพความมั่นใจจนถึงช่วงเข้าเส้นชัย
มองจากอีกมุมหนึ่ง รอมนีย์ประสบความสำเร็จเกินคาดที่สามารถจูงใจคนอเมริกันจำนวนมากมาลงคะแนนให้เขาจนขนาดนี้ โอบามาต้องประกาศยื่นมือขอให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสร่วมมือกันออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหนาสากรรจ์ยิ่ง
สำหรับ โอบามา ชัยชนะครั้งนี้น่าชื่นใจ เพราะสู้กันอย่างหมัดต่อหมัด นโยบายต่อนโยบาย...เหนื่อยยากลำบากเหลือหลาย...แต่ได้ฉันทานุมัติให้ทำงานอีก 4 ปี อย่างปราศจากข้อสงสัยใดๆ
ฟังคำปราศรัยชัยชนะของ โอบามา แล้ว เหมือนชุบชีวิตใหม่ น้ำเสียงเข้มข้น พร้อมฮึดสู้ปัญหาหนักหน่วงด้านเศรษฐกิจและการเมืองเทอมสุดท้ายจริงๆ
ไม่แน่ว่ว หลังจากชัยชนะเมื่อวานนี้ เราอาจจะเห็น โอบามา ตัวเป็นๆ ในเมืองไทย หลังจากประชุมสุดยอดอาเซียนบวกผู้นำชาติยักษ์ๆ ที่พนมเปญ ช่วง 18-19 พฤศจิกายน นี้ ก็ได้
จากคอลัมน์ กาแฟดำ
โอบามา...ชนะเด็ดขาด หลังศึกสงครามหืดขึ้นคอ
ผมนั่งเขียนคอลัมน์นี้จากห้องส่ง Nation Channel เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้สัมผัสกับบรรยากาศการลุ้นนับคะแนน
การหย่อนบัตรเลือกตั้งสหรัฐ ตั้งแต่เช้าเมื่อวานจนรู้ผลว่า โอบามา จะได้เป็นประธานาธิบดีอีกหนึ่งสมัย
เป็นการรายงาน วิเคราะห์การเลือกตั้งมะกันที่สนุกที่สุดครั้งหนึ่ง
เพราะว่าช่วงแรกๆ ของวัน ไม่มีสำนักข่าวสหรัฐยักษ์ๆ รายไหนกล้าฟันธงว่าใครนำใครตาม หรือใครชนะแพ้ในสองสามชั่วโมงแรกเลย
ตอนสิบโมงเช้า คะแนนหน้าจอ Fox News ในห้องส่งของผม บอกว่า โอบามา กับ รอมนีย์ ได้คะแนน electoral votes 163-163 เท่ากัน
ขณะที่ คะแนนดิบ หรือ popular votes ของ รอมนีย์ มีสูงกว่า โอบามา ที่ 31 ล้านเสียง ต่อ 30 ล้านเสียง
แต่ทีวียักษ์ทุกช่องของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น CNN หรือ Fox News ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง ว่า รัฐ "สวิง" สำคัญๆ ที่จะชี้ชะตาผลการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไปทางของใคร
ผมเฝ้าดูคะแนนจริงที่นับไปได้ประมาณ 60% ของรัฐ "สมรภูมิ" เหล่านี้แล้ว ก็เห็นภาพของความสับสนที่จะเกิดขึ้น เพราะเกือบจะเท่ากันหมด
ไม่ว่าจะเป็น โอไฮโอ (18), เวอร์จิเนีย (13), หรือ ฟลอริดา (29) ซึ่งสามารถ "แกว่ง" ไปในทิศทางไหนก็ได้ทั้งสิ้น
ถึงเวลา 10.40 น. รอมนีย์ นำ โอบามา ไป 174-163 แต่ก็ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร เพราะรัฐไหนที่ "อยู่ในกระเป๋า" ใครก็ยังอยู่กับคนนั้น ยังไม่มี "เซอร์ไพรส์" อะไรที่จะทำให้เห็นแนวโน้มออกไปชัดเจนแต่อย่างไร
(ผมเริ่มคิดว่าทีมงานในห้องส่ง อาจจะต้องเตรียมข้าวห่อมารองท้อง เพื่อรายงานวิเคราะห์ผลเลือกตั้งยาวต่อเนื่องไปถึงบ่ายและเย็นของเวลาไทย...หรือหลังเที่ยงคืนไปถึงเช้าที่สหรัฐ)
ทวิตเตอร์ข้อความหนึ่งจากคนไทยที่เกาะติดข่าวนี้บอกว่า "ลุ้นสนุกกว่าเชียร์มวยเสียอีก!"
ข่าวทยอยเข้ามาว่าทั้งสองพรรคเตรียมกองทัพทนายความเอาไว้ฟ้องร้องหรือสู้คดีกันอย่างเข้มข้น เพราะมีสัญญาณว่าเมื่อคะแนนสูสีในแต่ละเขตเลือกตั้งเช่นนี้ ทุกคะแนนจะมีความหมาย และฝ่ายแพ้ก็จะฟ้องร้องเพื่อให้มีการตรวจสอบหรือนับคะแนนใหม่
ข่าวเข้ามาในช่วงเวลา 11.00 น. คนไทยที่อเมริกาส่งข่าวว่า คุณลัดดา "แทมมี" ดั๊กเวิร์ธ สาวมะกันเชื้อสายอเมริกันชนะเลือกตั้งตำแหน่ง ส.ส. เขตแปด รัฐอิลลินอยส์ สามารถคว่ำคู่แข่งโจวอช จาก Tea Party คู่แข่งเก่าในเวทีการเมืองระดับรัฐ
หากข่าวนี้ได้รับการยืนยัน คุณลัดดาก็จะเป็นคนอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรก ที่จะได้เข้าสภาคองเกรสของอเมริกาทีเดียว
ใกล้ๆ เวลาเดียวกันนี้ คะแนน electoral college ของ โอบามา ขยับขึ้นมาเป็น 244 รอมนีย์ ขยับขึ้นไปที่ 203
ถึงจังหวะนี้ ดูเหมือนว่า โอบามา จะเข้าใกล้ 270 เต็มที แต่นั่นแปลว่า รวม 55 เสียงของแคลิฟอร์เนีย (ของตายมาตลอด) เข้าไปแล้ว เหลือ 26 เสียงต้อง "หืดขึ้นคอ" สำหรับ โอบามา ทีเดียว
วิเคราะห์ ณ จุดนั้น ว่า ถ้า โอบามา ได้ ฟลอริดา 29 เสียง ก็ชนะทันที
เวลา 11.10 น. ฟอกซ์นิวส์ให้ โอบามา ชนะรัฐโอไฮโอ ซึ่งมี 18 เสียง ไต่ขึ้นมา 262
เวลา 11.15 น. NBC News ฟันธงเป็นสื่อมะกันเจ้าแรกว่า โอบามา ชนะเลือกตั้งแล้ว
คะแนนหน้าจอขึ้นให้ โอบามา 275 ต่อ รอมนีย์ 203
อีกไม่กี่นาทีต่อมา เว็บไซต์ Huffington Post ให้ โอบามา 284 ต่อ 203 ของ รอมนีย์
และคะแนน โอบามา ขยับขึ้นไปที่ 290 เวลาใกล้เที่ยงบ้านเรา
หมดสิ้นข้อสงสัยที่มีตั้งแต่เช้า
แต่คะแนนดิบ หรือ popular votes ที่ปรากฏหน้าจอให้ รอมนีย์ สูงกว่า โอบามา เล็กน้อยคือ 46.3 ต่อ 46.1 ล้านเสียง ซึ่งยังไม่ใช่คะแนนร้อยเปอร์เซ็นต์
ท้ายสุด คะแนนของ โอบามา ก็ยืนยันว่าเขาคือทางเลือกของคนอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย
คะแนน electoral votes สุดท้ายคือ 303 ต่อของรอมนีย์ 206
และคะแนน popular votes ของ โอบามา ก็เหนือกว่า รอมนีย์ ที่ 53,528,142 ต่อ 52,825,769 หรือ 50% ต่อ 49%
ถือว่า "ความนิยมส่วนตัว" ของคนอเมริกันต่อสองคนนี้ใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง
ช่วงเช้า รอมนีย์ บอกนักข่าวว่า "ผมเตรียมร่างคำปราศรัยชุดเดียวสำหรับชัยชนะเท่านั้น"
เป็นการแถลงหาเสียงกันถึงนาทีสุดท้ายจริง ๆ เพราะว่าขณะนั้นรัฐต่างๆ ทางตะวันตกยังไม่ปิดหีบเลือกตั้ง ยังไงๆ ก็ยังต้องสร้างภาพความมั่นใจจนถึงช่วงเข้าเส้นชัย
มองจากอีกมุมหนึ่ง รอมนีย์ประสบความสำเร็จเกินคาดที่สามารถจูงใจคนอเมริกันจำนวนมากมาลงคะแนนให้เขาจนขนาดนี้ โอบามาต้องประกาศยื่นมือขอให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสร่วมมือกันออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหนาสากรรจ์ยิ่ง
สำหรับ โอบามา ชัยชนะครั้งนี้น่าชื่นใจ เพราะสู้กันอย่างหมัดต่อหมัด นโยบายต่อนโยบาย...เหนื่อยยากลำบากเหลือหลาย...แต่ได้ฉันทานุมัติให้ทำงานอีก 4 ปี อย่างปราศจากข้อสงสัยใดๆ
ฟังคำปราศรัยชัยชนะของ โอบามา แล้ว เหมือนชุบชีวิตใหม่ น้ำเสียงเข้มข้น พร้อมฮึดสู้ปัญหาหนักหน่วงด้านเศรษฐกิจและการเมืองเทอมสุดท้ายจริงๆ
ไม่แน่ว่ว หลังจากชัยชนะเมื่อวานนี้ เราอาจจะเห็น โอบามา ตัวเป็นๆ ในเมืองไทย หลังจากประชุมสุดยอดอาเซียนบวกผู้นำชาติยักษ์ๆ ที่พนมเปญ ช่วง 18-19 พฤศจิกายน นี้ ก็ได้
ความคิดเห็น