มุมมองใหม่ การค้าขายออนไลน์กับสินค้าจีน

 


ตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ของไทยเติบโตมากโดยมีตัวเร่งคือ เทคโนโลยี และ  Online Marketplace ต่างๆทำให้คนสะดวกชื้อสะดวกขายมากมาย

แต่นี่คือ ทฤษฎีต้มกบ อย่างสมบุรณ์​ การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากๆใน 10 ปีที่ผ่านมา จนกำลังจะมีกบตาย

ยุคแรกๆเร่ิมจากการที่ประเทศจีนมีการจัดงานแฟร์ เปิดตัวสินค้าต่างๆ งานระดับใหญ่ๆ ที่เมื่อก่อนคนไทยก็บินไปเจรจาซื้อสินค้าจีนมาขาย เป็นตลาดของคนมีเงินทุนมากทำตลาด งานใหญ่ๆที่คนไทยไป อาทิ งานแคนตันแฟร์ Canton fair ก็เป็นการไปดิวสินค้ามาแล้วขายเข้าช่องทางต่างๆในประเทศไทย

ยุคต่อมาความสะดวกมากขึ้นไม่ต้องบินไปดูสินค้า เพียงแค่เลือกสินค้าจากช่องทางออนไลน์ มีตัวกลางช่วยให้เรามั่นใจ(ได้ในระดับหนึ่ง)ว่าจะได้สินค้า ก็สั่งมาขายได้ ส่วนใหญ่ก็เลือใช้ 4 เว็บขายของจีนยักษ์


Alibaba  /  AliExpress / Taobao / Tmall.com. / 1688. / BANGGOOD /

"น้ำกำลังอุ่นพ่อค้ากำลังสบาย"

ยุคนี้เพื่อนๆนักธุรกิจหลายคน เติบโตจากการมองเห็นโอกาส ในการนำสินค้าจากจีน เข้ามาขายผ่านช่องทางออนไลน์ในไทย ใช้โฆษณา สื่อสารไปยังลูกค้า หากมีออร์เดอร์ก็สั่งสินค้าจากจีนเข้ามาขาย เพราะสั่งจากจีนถูกว่าสั่งผลิตในประเทศไทยซะอีก

"น้ำเริ่มร้อน กบบางตัวเริ่มรู้สึก"

ในยุคนี้พ่อค้าจีนเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะขายมายังไทย ผ่านช่องทาง Marketplaceในประเทศไทยด้วยเช่นกัน จะสังเกตุได้ว่า เป็นร้านค้าที่ส่งสินค้ามาจากต่างต่างประเทศ แถมยังได้รับ FTA หากสินค้าราคาไม่เกิน 1,000 บาท ทำให้มีสินค้าราคาถูกมากมายส่งเข้ามาขายในประเทศไทย

ทางออกของพ่อค้าแม่ขายไทย ก็คือ การขายในช่องทางอื่นๆที่ไม่ใช้ Marketplace ที่แข่งขันราคากันดุเดือด ไปขายทางช่องทางอื่น อาทิ  Facebook  / IG / website ต่างๆที่คนจีนไม่ได้เข้ามาขาย และอาศัยความได้เปรียมเรื่องความเร็วในการส่งสินค้าเพราะสต็อกในประเทศไทยส่งได้เร็วกว่า จึงขายในราคาที่สูงกว่าได้ และการไลฟ์ขายของบน IG/Facebook ก็ดูเหมือนเป็นทางออกของพ่อค้าแม่ขายไทย

มาถึงยุคปัจจุบัน ประเทศจีนมีข้อตกลงทางการค้ามีเขตเศรษฐกิจพิเศษ​ นำเข้าสินค้ามาตั้งไว้ได้ยังไม่ต้องเสียภาษี จะเสียก็ต่อเมื่อถูกส่งออกจากพื้นที่ปลอดภาษี เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ความได้เปรียบเรื่องเวลาในการส่งหายไป


มีสินค้าจากประเทศจีนหลายอย่างที่ คนไทยนำมาทำตลาด สร้างการรับรู้ ด้วยการทำโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ขายให้กับคนไทย และสุดท้ายโรงงานจีน หรือ พ่อค้าคนจีน ก็เข้ามาขายตัดราคาเอง เพราะช่องทางออนไลน์ทำให้คนจีนเข้ามาเองได้ง่ายขึ้นมาก ทั้งการเลือกสินค้าจาก Online Marketplace ที่ขายดีส่งตรงมาสต๊อกที่ไทยขายตรงเอง ทุก Platform ที่คนไทยกำลังนิยมซื้อของในขณะนี้ ล้วนแล้วเป็น Platform จากประเทศจีน ที่คนจีนใช้มาก่อน คุ้นเคยเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ขายมากกว่าคนไทย 

การไลฟ์ขายของก็เปลี่ยนไปจากช่องทาง IG/Facebook มาเป็นช่องทางอย่าง  Tiktok / Shoppe/ Tiktok ต้องบอกว่าคนจีนเก่งเรื่องนี้มาก เพราะถือเป็นอาชีพหนึ่งที่มีการร่ำเรียนกันเลย บวกกับเทคโนโลยีการจัดการหลังบ้านในการไลฟ์ขาย ปิดการขาย แพ็คส่งของ ที่คนจีนเก่งมากในPlatformเหล่านี้ ติดขัดอย่างเดียวคือเรื่องภาษา แต่แล้วคนจีนก็พัฒนาภาษาตัวเองมาพูดไทยได้อย่างชัดเจน  

"เร่งไฟให้แรง และกบหลายตัวกำลังจะตาย"

ยุคปัจจุบันความได้เปรียบของธุรกิจไทยที่เคยมาเริ่มหายไป

  • ความเร็วในการส่งสินค้า หายไปมีโกดังสินค้าจีนมากมาย
  • กำไรจากการขายปลีกลดลงไปเรื่อยๆ เพราะมีการขายราคาส่งในช่องทางค้าปลีก
  • ความได้เปรียบเรื่องภาษี คนไทยนำเข้าเป็นตู้ เสียภาษีนำเข้า แต่ คนจีนส่งจากเขตปลอดภาษีโกดังในประเทศ ไม่เสียภาษี หรือ เสียแค่จำนวนที่ขายออกมา
  • ไลฟ์ขายของที่คนได้ได้เปรียบเรื่องภาษา ตอนนี้คนจีนที่พูดไทยได้ไลฟ์ขายเองได้แล้ว
  • ต้นทุนการขายของช่องทาง Marketplace สูงถึง 35% แล้ว คนไทยแทบไม่มีโอกาสสู้ได้

ซึ่งทำให้คนที่ทำธุรกิจที่สินค้าจีนเข้ามาขาย ได้รับผลกระทบมากๆ 


แนวทางกลยุทธ์ที่คนนำสินค้าจากจีนเข้ามาขาย

  1. การขอเป็น Sole Agent 
  2. การสร้างแบรนด์ สินค้าเราเอง (จ้างจีนผลิตก็ได้) 
  3. การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่ต้องสต็อก ​Dropship / Affiliate 
  4. การสร้างระบบ CRM ดูแลลูกค้าที่ดีกว่าแค่ขายของถูก
  5. สร้างช่องทางจัดจำหน่ายของตนเอง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์เชื่อมโยงกัน

โอ วีระ เจียรนัยพานิชย์
นักการตลาด นักสร้างเครือข่ายธุรกิจ นักสร้างพันธมิตรธุรกิจSME

ติดตามข่าวสารได้ในช่องทางต่างๆดังนี้
Twitter @oweera

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลดหนังสือมานี มานะ ไฟล์ PDF ฟรี ขอบคุณ (ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net)

รวมมุกขำขำ มุกตลก มุกงานเลี้ยง มุกพิธีกร

K-SME Analysis ธุรกิจชานมไข่มุก จากไต้หวัน