We Live,We learn,We grow. ใช้ชีวิต เรียนรู้ เติบโตไปด้วยกัน หลักสูตร อบรมพนังงานใหม่ ธนาคารกสิกรไทย
เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเวที เล่าประสบการณ์การใช้ชีวิต ใน KBank ให้กับเพื่อนพนักงานใหม่ ทุกคนได้ฟัง ในการอบรมหลักสูตรพนักงานใหม่ ธนาคารกสิกรไทย
ครั้งนี้ได้รับโจทย์จากโค้ชฮิม ประสิทธิ์ องอาจตระกูล ว่าให้ช่วยขึ้นเสวนา เล่าประสบการณ์การทำงานในธนาคารกสิกรไทย ให้กับพนักงานใหม่ฟัง เพราะเห็นว่าเป็น คนรุ่นใหม่ ประสบความสำเร็จเร็ว (พอพี่ฮิมพูดสองข้อนี้ ตอบรับทันทีแล้ว) ทั้งหน้าที่การงานและครอบครัว เจอคำนี้ยิ่งรีบรับปากเลย เลื่อนประชุมทุกอย่าง
ก่อนขึ้นเวทีพี่ฮิมขอให้มาซ้อมกันก่อนหนึ่งวัน ตอนแรกคิดว่าจะแค่บรี๊ฟให้ฟังเฉยๆ แต่เป็นโชคดีมากๆที่ได้รับการโค้ชจากพี่ฮิมด้วย สองชั่วโมงจากการโค้ช ทั้งผมและน้องมิ้นพิธีกรสาวสวย เป็นประโยชน์กับชีวิตมากจริงๆ
- ม๊อด ( moderator ) ที่ดีต้องช่วยดึงคนดูและคนพูดให้อยู่กับการสัมมนา
- ม๊อด ไม่ต้องสรุปทุกประเด็นที่วิทยากรพูด เพราะจะทำให้คนดูไม่สนใจวิทยากร รอฟังสรุป
- ม๊อด เก่งๆคือคนที่ทำให้การเสวนาบนเวทีลื่นไหล ไม่ติดขัดและกระชับได้ประเด็น ไม่ใช่คนที่สรุปเก่งเสนอความคิดที่เด่นกว่าวิทยากร
- ได้รับการโค๊ชเรื่องน้ำเสียง ว่าคนเสียง FM อย่างผมต้องรู้จักการพูดปรับโทนเสียง
- การสอนในปัจจุบัน คนมีความรู้เยอะ จะทำได้ดีต้องใช้วิธีเล่าเรื่อง Storytelling มือหนึ่งที่เก่งที่สุดในสายตาพี่ฮิม คือ คุณปั้น เพราะการสอนผ.อ. แต่ละคนไม่ใช่จะสอนกันง่ายๆ ต้องมีเรื่องให้ชวนคิดตาม
- การพูดบนเวทีเสวนา ให้มีเสน่ห์ ยากกว่าการพูดเดียวตรงจุดที่ ต้องใช้สายตากับคนดูและพิธีกรไปอย่างเหมาะสม คำไหนจะเน้นให้จำ หันหน้าเข้าหาคนดู
- มุกตลกร้าย ให้เอาตัวเองเป็นผู้ร้าย การยกตัวอย่างที่ไม่ดีหรือข้อบกพร่องให้ใช้ตัวเองเป็นตัวละคร
เมื่อถึงวันพูดจริงทีมงานพัฒนาทรัพยากรบุคคล จัดเตรียมอาหารให้วิทยากรก่อนเริ่มการสัมมนา น้องๆมาต้อนรับอย่างดี ดูแลไม่ขาดตกบกพร่องจนเขิล (ลูกน้องตัวเองไม่เห็นดูแลดีขนาดนี้ บ่น บ่น )
ขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ พร้อมแล้วสำหรับคำถามจากน้องมิ้น
- ก่อนขึ้นเวที ปรับหัวใจตัวเองก่อนว่า เราคือคนตัวอย่าง เราคือคนที่สำเร็จ พร้อมจะแบ่งปัน แล้วขึ้นไปสนุกบนเวที
คำถามแรก ให้ช่วยเล่าเคล็ดลับการประสบความสำเร็จใน KBank (ฝ่างงงงงงง) มาถึงก็เล่าเลย ปูพื้นตัวเองก่อนนิสนึง ให้คนพอรู้จัก
ทำงานที่ KBank มา9 ปีเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญงานกลยุทธ์การตลาดลูกค้าผู้ประกอบการ ยิงไปหนึ่งมุก คือ..ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนี้หล่ะเล็กสุดแล้วของธนาคารเรา (ฮา) บราบราบราไป เข้ามาถึงสิ่งที่อยากบอกสองเรื่องสำหรับการประสบความสำเร็จ ต้องมีสองอย่าง 1.เป้าหมาย 2.ทัศนคติ
เป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครอยากเดินทางร่วมกับคนที่ไม่มีเป้าหมาย #ความรักก็เช่นกัน สิ่งนี้นายช่วยสร้างให้ครึ่งหนึ่งแต่เราต้องเติมเต็มอีกครึ่งหนึ่ง ชีวิตคนทำงานเป้าหมายส่วนตัวหากไม่ตรงกับงานต้องปรับตัวเข้าหางาน ให้ได้ อย่าเชื่อตำราข้างๆคูๆหรือ MLM เผาหัว ที่ต้องเลือกงานให้ตรงกับเป้าหมายชีวิต ต้องมีอิสรภาพทางการเงิน งานประจำทำไม่รวย ไม่มีใครรวยจากงานประจำ ปรับเป้าหมายให้ตรงกับเป้าหมายองค์กร และซอยย่อยให้เป็น งานที่ต้องทำ กำหนดเวลาชัดเจน นี่คือพื้นฐานความสำเร็จ
ทัศนคติ เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ที่ต้องสร้างขึ้นด้วยตนเอง คนอื่นปรับเปลี่ยนให้เราไม่ได้ ทัศนคติที่ดีต่อปัญหา บอกน้องๆทุกคนไม่ต้องกล้วการเจอปัญหา เพราะต้องเจอแน่ๆๆๆๆ สิ่งที่ฝากไว้ให้เป็นทัศนคติสำคัญเลย " เค้าจ้างเรามาเพื่อแก้ปัญหา หากไม่มีปัญหาเค้าไม่จ้างเรา" ต้องแก้ปัญหาและปรับปรุงพัฒนาตัวเองเสมอ
เครื่องพิมพ์ดีด คนซื้อมาเพื่อแก้ปัญหาการเขียนการพิมพ์จดหมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีเปลี่ยน คนก็ไม่ใช้เครื่องพิมพ์ดีดแล้ว ทุกคนใช้คอมพิวเตอร์เล่าเรื่องนี้เพราะอยากให้ทุกคนมองตัวเองเป็นสินค้า ต้องแก้ปัญหาและพัฒนาต่อเนื่อง ไม่งั้นหมดปัญหาหากเราไม่มีการพัฒนาก็อาจไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
คำถามที่สอง งานก็เยอะ เวลาก็น้อย แบ่งเวลายังไง
- ก่อนแบ่งเวลา ต้องรู้จักการแบ่งประเภทงาน งานสำคัญ กับงานด่วน ทำงานด่วนก่อนงานสำคัญ แต่ต้องมั่นใจว่างานสำคัญไม่เสียหาย
- ประสบการณ์ส่วนตัวแบ่งเวลา ตามหลัก 8 : 8 : 8 ทำงาน : เล่น : พักผ่อน
- เวลาทำงานทำเต็มที่ไม่ว๊อกแว็ก 8 ชั่วโมงงานเสร็จแน่
- หากเต็มที่กับงาน จะเล่นกับลูก คุยกับแฟน เตะบอล ทานข้าว เล่นกีฬา แต่คนกรุงเทพต้องเผื่อเวลานี้ไว้เดินทางด้วย
- พักผ่อน ออกกำลังกายสำหรับบางคนก็เป็นการพักผ่อน เวลานี้คือเวลาที่เราจะฟักสมอง มองท้องฟ้า ฟังเพลงนอนหลับ นอนให้พอไม่งั้น จะทำอย่างอื่นไม่ได้สำเร็จ
คำถามที่สาม ทำงานที่ KBank มีปัญหาอะไรบ้าง
ถามคนดูก่อนเลย ทำงานสำนักงานใหญ่รึป่าว ที่เจอแน่ๆคือประชุมเยอะ งานหลายขั้นตอน เพราะที่นี่องค์กรใหญ่ ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานของตน ก้าวซ้าย ก็ทับ ก้าวขวาก็ทับ งานคนอื่น เดินหน้า ก็ชนนาย ถอยหลังก็ชนลูกน้อง จึงอย่ากลัวที่ต้องผ่านงานกับคนเยอะ ต้องรู้จักดึงศักยภาพของคนทุกคนมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับงานที่สุด
และเวลามีปัญหา ให้หันมามองที่เป้าหมายของงาน ให้ทำงานบนหลัก K Culture
นี้คือวิธีแก้ปัญหางานแบบกสิกรไทย ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใครจะศึกษา
จบการพูดในสามสิบนาที เป็นการพูดจากใจล้วนๆไม่ได้เตรียมสคริปอะไร แต่รู้สึกเป็นการพูดที่ชอบมากที่สุดของปีนี้เลย
ความคิดเห็น