หลักการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ และปรับใช้ในสไตล์อ.ตรี ที่เกษียณตั้งแต่อายุ 40
หลักการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ และปรับใช้ในสไตล์อ.ตรี ที่เกษียณตั้งแต่อายุ 40
.
สรุปเนื้อหาเผื่อใครไม่มีเวลาอ่าน
- เลือกหุ้นที่ดีหุ้นที่มีกำไร
- เลือกซื้อในจังหว่ะเวลาที่ดี มีส่วนลด MOS 40-60%
- เข้าถือในจังหว่ะเวลาที่คนอื่นตื่นกลัว RSI 35
- ขยันหาเงินมาเติมพอร์ตอย่างมีวินัย
อ่านยาวๆจากตรงนี้
นี่คือครั้งแรกที่เรียนรู้เรื่องการลงทุนในหุ้นอย่างจริงจังครั้งแรกหลังจากผ่านชีวิตพนักงานธนาคารมา15ปีไม่เคยมีบัญชีหุ้นเลยลาออกด้วยเงินเก็บก้อนหนึ่งเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเงินเก็บนิดหน่อย จึงต้องปูพื้นฐานการลงทุนใหม่ทั้งหมด ด้วยการอ่านการเรียนติวตลอดปีเพื่อหาความรู้ โดยฝากตัวกับสำนัก TheBiz ของอาจารย์ตรี
"เพราะปริมาณรายได้จากการลงทุนขึ้นอยู่กับความรู้ที่มี"
สามสิ่งที่จะต้องมีและศึกษาสำหรับมือใหม่ที่จะเป็นเกราะป้องกันการเจ๊งอย่างรวดเร็ว
- อ่านข้อมูลและรู้จักหุ้นทุกตัวในตลาดหรืออย่างน้อยเลือกสนใจหุ้น30ตัวที่ศึกษาจริงๆ แนะนำอ่านได้จาก Line @mrstock และ Set.or.th มีงบการเงินให้อ่านทุกบริษัท
- เครื่องมือที่จะใช้วัดราคาหุ้นตรวจสอบราคาหุ้นย้อยหลัง อย่างเว็บ tradingview หรือ jitta
- ตารางการบ้านหุ้นส่วนตัวที่ต้องมีไว้ฝึกวิชา (ใครสนใจตารางการบ้าน พิมพ์ว่าสนใจตารางการบ้าน นะครับ)
เมื่อเรามีอุปกรณ์ครบทั้งสามอย่างแล้วก็เปิดพอร์ตหุ้นรอ การลุ้นด่านแรกของการเริ่มเทรดหุ้นสำหรับผมคือ ลุ้นเลขบัญชีหุ้นที่จะได้เลขท้าย 65/56/89/78/36/28 เลขดีๆสำหรับการออมและลงทุน ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ครับพอเปิดบัญชี ที่ KBank แล้วเลขไม่ค่อยสวย เลยไปเปิดอีกบัญชีที่ SCB อันนี้เลขพอใช้ได้จะเอาไว้ทำพอร์ตเกษียณ
ก่อนจะเริ่มลงทุนมีหนึ่งในคำพูดที่ดังที่สุดของวอร์เรน บัฟเฟตต์ที่หลายๆคนเคยได้ยิน คือ
"จงโลภเมื่อคนส่วนใหญ่กำลังตื่นกลัว และจงตื่นกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กำลังโลภ"
เป็นประโยคที่หนังสือหลายเล่มเอามาใช้ เพื่อให้เข้าใจการลงทุนแบบ VI มันสั้นและเท่ห์ดี แต่ยังมีอีกหนึ่งส่วนของประโยชค์นี้ ที่หายไปจากที่คนส่วนใหญ่เอามาโฆษณาคือ ประโยคที่ว่า "ถ้าคุณซื้อหุ้นบริษัทที่ดี ในราคาMOS( Margin of safety) ที่เหมาะสม
หลักสำคัญคือ ซื้อของดีในราคามีส่วนลด เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร
วิธีการหาราคาส่วนลดของหุ้นมีหลายหลักเกณฑ์สำหรับมือใหม่ เราจะใช้วิธีวิเคราะห์ Five force analysis + 1 วิเคราะห์ว่า ธุรกิจนี้ มีความได้เปรียบในตลาด แต่ละด้านอย่างไร
1.ธุรกิจนี้ได้เปรียบลูกค้าหรือไม่
2.มีอำนาจต่อSupplierหรือไม่
3.คู่แข่งที่มีอยู่บริษัทเก่งกว่ามากมั๊ย
4.คู่แข่งรายใหม่จะเข้าตลาดมาง่ายหรือไม่
5.สินค้าทดแทนธุรกิจอื่นทดแทนได้ง่ายหรือไม่
6.ธุรกิจนี้ยังจะดีต่อไปในอนาคตหรือไม่
เมื่อวิเคราะห์แล้วนำมาทำเป็นส่วนลดของหุ้นโดยเทียบกับราคาสูงสุดที่หุ้นตัวนั้นเคยมีในระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจารย์แนะนำว่าดูย้อนหลัง 5 ปี
ยกตัวอย่างเช่น
หุ้น Mint หุ้นที่ผมชอบมากๆ เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารอย่าง the pizza company / เซเวนเซ่น / ซิสเลอร์ / รร.อนันตรา
จาก 6 ข้อน่าจะได้ 50 คะแนน หรือส่วนลด 50% ราคาหุ้นปิดสูงสุดเมื่อวันที่ 13 พย. 17 ในราคา 43.5 บาท แปลว่า ราคาที่ควรซื้อเก็บ คือราคาต่ำกว่า 17.4 บาท สามารถซื้อเก็บสะสมได้เลย ซึ่งช่วงวิกฤติมีคนเก็บได้จริงและเยอะด้วยจนสัดส่วนเกือบกลายเป็นเจ้าของไปเลย สามารถทำกำไรหรือถือยาวได้แน่นอน
ดังนั้นหากเจอหุ้นที่ได้ส่วนลด 40-60% เป็นหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการกำไรสม่ำเสมอ หรือ แม้จะขาดทุนบ้างในลักษณะวิกฤติชั่วคราว หุ้นนี้สามารถซื้อสะสมได้ สามารถเก็บไว้ใน #พอร์ตรอเกษียณ ได้
อีกหลักการหนึ่ง คือ การซื้อหุ้นที่มี RSI ต่ำกว่า 35 เป็นการซื้อหุ้นในขณะที่คนอื่นกำลังตื่นกลัว RSI ย่อมาจาก Relative Strength Index หาก RSI ต่ำคือคนตื่นกลัวรีบขายกลัวขาดทุน RSIสูงคือคนรีบแย่งกันซื้อกลัวตกรถ
นี่คือสัญญาณที่นักลงทุนกองทุนทั่วโลกมักจะใช้โดยจะซื้อหุ้นดีๆผลประกอบการดีมีกำไรแต่ RSI ต่ำกว่า 30 จะรีบเข้าซื้อทันที เก็บไว้ใน #พอร์ตสร้างกำไร
นักเล่นหุ้นมือใหม่ ที่จะลงทุน ควรเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายของการลงทุน รู้ว่าตัวเองมีเงินลงทุนเท่าไร
ในตลาดทุน มีคำนึงที่น่าสนใจ
Limited loss / Unlimited profit
จำกัดการสูญเสีย / ไม่จำกัดกำไร
จะทำสิ่งนี้ได้ต้องมีเงินมาลงทุนที่เป็น #เศษเงินหลังตู้เย็น
มีเงินลงทุนในหุ้นแบบ " เศษเงินหลังตู้เย็น" คือเงินเย็นที่เราสามารถนำมาใช้ได้ใจเย็นได้ไม่มีต้นทุนทางการเงิน
แบ่งเงินลงทุนที่มีเป็น 20 ส่วน เช่นหากมีเงินเย็นนิ่งๆ อยู่ 1,000,000 บาท เราก็แบ่งเงินเป็นกองละ 50,000 บาท ไปซื้อตามสัญญาณ เป็นการลงทุนแบบมีวินัย
วิเคราะห์หุ้นให้ดี เลือกหุ้นดีธุรกิจดีมีกำไรและศึกษาสัญญาณในการเข้าซื้อ นี่คือแนวทางในการหาเงินเกษียณ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลักการลงทุนเพื่ออนาคต
1.เราต้องมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยการ.. พัฒนาตัวให้หาเงินเก่ง
2.เลือกลงทุนเพื่อให้เงินทำงาน..พัฒนาเงินหาเงินเก่ง
นี่คือ สองเรื่องหลักๆที่ผมจะมาเปิดห้องเล่าเรียนกับเพื่อนๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์นะครับ อย่าลืมใครอยากได้ตารางการบ้านของผม พิมพ์คอมเม้นต์เอาไว้นะครับ
ความคิดเห็น