พระปิดตานาคราชราหู หลวงพ่อคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง จังหวัดพัทลุง รุ่นสร้างหอฉัน ร้าน Kree Amulet




พระปิดตานาคราชราหู หลวงพ่อคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง จังหวัดพัทลุง รุ่นสร้างหอฉัน 

พุทธาภิเษกเกจิสายเขาอ้อ 9 รูป 29 ตุลาคม 56 ตะกรุดมหายันต์นะ 108 เนื้อนวโลหะ บูชามาจากร้าน Kree Amulet 

ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากออกจากงานประจำมาทำงานใหม่ มีคนติดต่อให้มาช่วยงานด้วย แบบทำแทบไม่ทัน ผลตอบแทนที่นับว่าดี เหนื่อยมากแต่ก็คุ้มค้า

 

ตอนนี้กลายเป็นเครื่องประดับติดมือไปทุกที่ ที่ทำงานด้วยเลยอยากเขียนบันทึกเอาไว้ โปรเจคใหม่เป้าหายสิ้นปีนี้ปิดเป้า 10,000,000 ให้ได้แล้วจะมารีวิวให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง 

สีผึ้งกวยเกร๊าะ หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารสีผึ้งในตำนานอีสานใต้กวยเกร๊าะ แปลว่า คนหลง อีกหนึ่งของติดตัวที่ไปเจรจาการค้างานขายจำเป็นต้องมีไว้เพื่อความมั่่นใจ

ปล. เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้รับค่าจ้างมารีวิว 

ประวัติหลวงพ่อคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง


       พระครูพิพิธวรกิจ (คล้อย อโนโม) เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2472 ปัจจุบันอายุ 84 ปี ( พรรษา62 )เดิมชื่อ คล้อย ทองโอ่ บิดาชื่อ นายแสง ทองโอ่ มารดาชื่อ นางเอียด ทองโอ่ เกิดที่ ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จบการศึกษาชั้นประถม 4 จากโรงเรียนวัดไทรงาม ตำบลนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เมื่อถึงวัยบวชเรียนท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2491 ณ วัดดอนศาลา ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสิทธิยารัตน์ (พระอาจารย์เอียด) และ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อขึ้นปีขาล วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2493 ณ วัดควนปันตาราม ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีพระครูรัตนาภิรัตเป็นอุปัชฌาย์ พระมหาเจิม ฐิตเปโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูกาชาด วัดดอนศาลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังบวชเรียนแล้วได้ศึกษาจนสอบได้เป็นนักธรรมเอก จากสำนักเรียนวัดดอนศาลา เมื่อปี พ.ศ. 2497 ต่อมาได้เป็นครูสอนนักธรรมตรี แผนกธรรมที่สำนักเรีนยวัดดอนศาลาและวัดภูเขาทอง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดภูเขาทองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501จวบจนปัจจุบัน 

      - ปี พ.ศ. 2518 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ

     - ปี พ.ศ. 2522  ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูพิพิธวรกิจ

     - ปี พ.ศ. 2542  ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน

     - ปี พ.ศ. 2546  ถึงปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะอำเภอควนขนุน(ชั้นเอก)

     ตลอดเวลากว่า 54 ปี ที่หลวงพ่อคล้อยได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง ท่านได้พัฒนาวัดมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยว่างเว้น เสนาสนะแทบทุกอย่างภายในวัดภูเขาทอง อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ เมรุ กุฏิสงฆ์ กำแพงแก้ว หอระฆัง ฯลฯ ล้วนเกิดจากความมีวิริยะ อุตสาหะของท่านทั้งสิ้น แต่กาลเวลาเนิ่นนานย่อมทำให้เสนาสนะและสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดเกิดการเสื่อมสภาพ ต้องได้รับการฟื้นฟูบูรณะให้มีสภาพดีคงเดิม อุโบสถของวัดภูเขาทองหลังนี้ก็เช่นกัน หลวงพ่อคล้อยสร้างมาตั้งแต่ปี 2522 ปัจจุบันยังเสร็จไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์  ท่านจึงมีดำริที่จะทำการบูรณะปฎิสังขรณ์ให้มีความงดงาม สามารถใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะให้มีการผูกพัทธสีมาและฝังลูกนิตในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีความยั่งยืน จึงอยากบอกบุญมายังพุทธศาสนิกชนได้ร่วมในบุญครั้งนี้ด้วย

      แม้นว่าหลวงพ่อคล้อยจะได้รับการยอมรับจากชาวไทยและชาวต่างประเทศว่า ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายใต้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า เข้มขลัง มีอาวุโสสูงรูปหนึ่งในสายเขาอ้อ(ตักศิลาทางไสยเวทของเมืองไทย) แต่ด้านการสอนสั่งในพระพุทธศาสนาท่านก็ถือยึดแนวตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ สอนให้พุทธศาสนิกชนทุกคนจงใช้สติ ระลึกได้ก่อนกระทำ พูด คิด และมีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวขณะทำ พูดและคิด มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย

      ปัจจุบันวัยของหลวงพ่อคล้อยล่วงเลยมาจนครบ 7 รอบ 84 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้หากไม่มีกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางไกล ผู้มีโอกาสไปวัดภูเขาทองจะเห็นภาพของพระเกจิร่างเล็กผู้เรืองเวทกวาดใบไม้ลานวัดหน้ากุฏิอยู่เสมอๆ ท่านบอกว่าอยากให้วัดมีความสะอาดมีความเป็นระเบียบ ใครมาวัดก็จะได้ดูร่มรื่นสบายใจ และถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย ท่านเป็นพระเกจิที่มีสุขภาพจิตดีและมีอารมณ์ขันมากๆ เวลาท่านมีบรรดาญาติโยมไปกราบนมัสการ ท่านก็มีเมตตาออกรับแขกทุกคนโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ จะมีเรื่องเก่าๆเล่าให้ฟังแฝงด้วยคติคำสอนตลอดเวลา ก่อนญาติโยมจะลากลับท่านก็จะเรียกลูกศิษย์ที่คอยดูแลปรนนิบัติให้เข้าไปในกุฏิเพื่อหยิบเอาวัตถุ มงคลของท่านมาแจกให้ทุกครั้งคนละหนึ่งองค์ แล้วก็จะกล่าวกำชับเชิงหยอกล้อว่า " รูปของเรา ของแท้ๆจงเก็บรักษาไว้ให้ดีนะ อย่าให้ใครมาหลอกเอาไปอีกล่ะ " แล้วก็มีเสียงหัวเราะตามมาทั้งผู้รับและผู้ให้...

*** หลวงพ่อคล้อย อโนโม ได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 16.19 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2557 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑) ณ กุฏิภายในวัดภูเขาทอง สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่บรรดาศิษย์ฯ ขอให้ท่านสู่สุขคติครับ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลดหนังสือมานี มานะ ไฟล์ PDF ฟรี ขอบคุณ (ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net)

รวมมุกขำขำ มุกตลก มุกงานเลี้ยง มุกพิธีกร

K-SME Analysis ธุรกิจชานมไข่มุก จากไต้หวัน