Thailand4.0 กับ ทิศทาง Startup ไทยที่รัฐบาลสนับสนุน
นโยบายไทยแลนด์4.0 ออกมาซักระยะหนึ่งแล้ว รัฐบาลต้องการเร่งรัดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ทุกกระทรวงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ บางส่วนให้ความรู้บางส่วนลงมือทำ มีอุตสาหกรรม4.0 พาณิชย์4.0 เกษตร4.0 การศึกษา4.0 ออกมามากมาย
หากย้อยกลับไปดูนโยบายของภาครัฐที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์10อุตสาหกรรมเป้าหมาย
5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
3) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
4) การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
5) อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร
5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
2) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
3) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
4) อุตสาหกรรมดิจิตอล
5) อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
คนที่จะทำธุรกิจ Startup ควรถอดรหัสออกมาดังนี้
- ธุรกิจเราอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนับสนุนกลุ่มไหนใน 5 กลุ่มแรกรึป่าว ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้น ทั้งกฎหมายและงบประมาณ
- หากไม่อยู่ใน10กลุ่มธุรกิจนี้ หากไม่ปรับตัวรัฐอาจเปิดทางให้เกิดการแข่งขันอย่างเต็มที่
เช่นกลุ่มเกษตร รัฐบาลอัดฉีดเงินลงไปยังเกษตรกร ให้เกิดเกษตรแปลงใหญ่และใช้นวัตกรรม “สมาร์ทฟาร์มเมอร์”
สตาร์ตอัพโต300% ‘สมคิด’หนุนนักรบพันธุ์ใหม่เกษตร-ไบโอเทค
http://www.thansettakij.com/2016/12/08/118639
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกประเทศไทยเก่งในการทำห้างสรรพสินค้าเพราะพฤติกรรมคนไทยชอบเดินในห้างสรรพสินค้าแต่ตลาดออนไลน์ คนไทยไม่มีบริษัทไหนที่แข็งแรงในการสร้าง Platform จึงเปิดทางหาพันธมิตรต่างชาติ มาเร่งการแข่งในประเทศ
รัฐบาลไทยจับมือกับ Alibaba ยักษ์ใหญ่จากจีน เพื่อร่วมผลักดัน E-commerce และก้าวสู่ Thailand 4.0
http://techsauce.co/news/thai-government-collaborate-with-alibaba-thailand4-0/
หากมองอย่างเป็นกลางนี้คือการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ประเทศ แต่สำหรับในการดำเนินธุรกิจจริงๆ
ทำนาให้ดูดินฟ้า ทำการค้าในดูนโยบายรัฐ
รีบปรับตัวก่อนจะถูกปรับ ยังมีอีกหลายธุรกิจที่กำลังจะโดนสึนามิ4.0
- ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง
- ธุรกิจทัวร์
- ธุรกิจขนส่ง
- ธุรกิจการเงิน
****************************************
โอ วีระ เจียรนัยพานิชย์
นักการตลาด นักสร้างเครือข่ายธุรกิจSME
ติดตามข่าวสารได้ในช่องทางต่างๆดังนี้
Twitter @oweera
LINE@ http://line.me/ti/p/%40oweera
BLOG http://oweera.blogspot.com
Fanpage https://facebook.com/SMENetworkingThailand
หากย้อยกลับไปดูนโยบายของภาครัฐที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์10อุตสาหกรรมเป้าหมาย
5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
3) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
4) การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
5) อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร
5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
2) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
3) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
4) อุตสาหกรรมดิจิตอล
5) อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
คนที่จะทำธุรกิจ Startup ควรถอดรหัสออกมาดังนี้
- ธุรกิจเราอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนับสนุนกลุ่มไหนใน 5 กลุ่มแรกรึป่าว ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้น ทั้งกฎหมายและงบประมาณ
- หากไม่อยู่ใน10กลุ่มธุรกิจนี้ หากไม่ปรับตัวรัฐอาจเปิดทางให้เกิดการแข่งขันอย่างเต็มที่
สตาร์ตอัพโต300% ‘สมคิด’หนุนนักรบพันธุ์ใหม่เกษตร-ไบโอเทค
http://www.thansettakij.com/2016/12/08/118639
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกประเทศไทยเก่งในการทำห้างสรรพสินค้าเพราะพฤติกรรมคนไทยชอบเดินในห้างสรรพสินค้าแต่ตลาดออนไลน์ คนไทยไม่มีบริษัทไหนที่แข็งแรงในการสร้าง Platform จึงเปิดทางหาพันธมิตรต่างชาติ มาเร่งการแข่งในประเทศ
รัฐบาลไทยจับมือกับ Alibaba ยักษ์ใหญ่จากจีน เพื่อร่วมผลักดัน E-commerce และก้าวสู่ Thailand 4.0
http://techsauce.co/news/thai-government-collaborate-with-alibaba-thailand4-0/
หากมองอย่างเป็นกลางนี้คือการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ประเทศ แต่สำหรับในการดำเนินธุรกิจจริงๆ
ทำนาให้ดูดินฟ้า ทำการค้าในดูนโยบายรัฐ
รีบปรับตัวก่อนจะถูกปรับ ยังมีอีกหลายธุรกิจที่กำลังจะโดนสึนามิ4.0
- ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง
- ธุรกิจทัวร์
- ธุรกิจขนส่ง
- ธุรกิจการเงิน
****************************************
โอ วีระ เจียรนัยพานิชย์
นักการตลาด นักสร้างเครือข่ายธุรกิจSME
ติดตามข่าวสารได้ในช่องทางต่างๆดังนี้
Twitter @oweera
LINE@ http://line.me/ti/p/%40oweera
BLOG http://oweera.blogspot.com
Fanpage https://facebook.com/SMENetworkingThailand
ความคิดเห็น