fish philosophy ป[ล]าฎิหารย์ แห่งความสำเร็จ พัฒนาความสุขให้กับชีวิต กับ สี่ปรัชญาเรียบง่าย เล่น สร้างสรรค์วันดีๆ ใส่ใจให้บริการ และ เลือกสร้างทัศนคติ
Fish!!! ป[ล]าฎิหารย์แห่งความสำเร็จ พัฒนาความสุขให้กับชีวิต
Author: Stephen C. Lundin, Ph, D., Harry Paul ..
แปลโดย จิระนันท์ พิตรปรีชา
ในหลายปีมานี้ มีหลายองค์กรที่พยายามเปลี่ยนแปลงทีมงานพัฒนาคน แต่ก็มักจะมีการอ้างถึง
เลยขอนำเอา หนังสือ fish philosophy ป[ล]าฎิหารย์ มาบันทึกไว้ที่นี่ซักครั้ง
ตลาดปลาใน เมืองซีแอตเติล คือกรณีศึกษาของชีวิตคนกลุ่มหนึ่งที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานอันน่าเบื่อของ ตลาดขายปลาเป็นตลาดมหาสนุก ทุกคนทำงานด้วยความสนุกสนาน และทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกกับบรรยากาศนั้นไปด้วย
"จงรักในสิ่งที่คุณ ทำ" หากคุณไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณรัก ก็จงรักในสิ่งที่คุณทำซะ คิดง่ายจัง แต่ในชีวิตเราหลายๆ คน สิ่งที่ฝันที่หวังกับสิ่งที่ได้มาจริงๆ อาจเป็นคนละเรื่องกันเลย นั่นขึ้นอยุ่กับโอกาสในชีวิต แล้วคุณจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อคุณต้องอยู่กับสิ่งนั้น และนั่นคือชีวิตของคุณ
"Fish" เป็นเรื่องแต่งที่สอดแทรกแนวคิดทางธุรกิจ ที่เต็มไปด้วยพลังการคิดสร้างสรรค์ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกๆ คน ไม่ว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นคืออะไร เพียงเรารักในสิ่งที่เราจะทำเท่านั้น (เหมือนเวียนไปเวียนมา) 555
เรื่องเริ่มจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแม่ รี่ เจน รามิเรซ ซึ่งเธอต้องย้ายงานและตามสามีมาอยู่ที่ซีแอนเติล พร้อมกับลูกๆ ของเธอ แรกๆ แดนสามีของเธอมักกลับมาเล่าเรื่องที่ทำงานใหม่ให้ฟังซึ่งงานเขากำลังไปได้ดี แต่แล้วโรคร้ายปัจจุบันทันด่วนก็มาพรากสามีเธอไปอย่างรวดเร็ว
Fish สอนให้มองว่า ชีวิตคนเรามักไม่แน่นอน ถ้าคุณเป็นแมรี่ คุณจะทำยังไง เธอเป็น working women คนนึง ชีวิตที่ซวนเซไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ยังก้าวต่อไป
ปีต่อมาเธอก้าวเป็น "หัวหน้าคนเก่ง" ด้วยความเป็นมืออาชีพ เธอถูกหัวหน้าส่งไปจัดการกับปัญหาของหน่วยงานบนชั้น 3 ของบริษัท ซึ่งมีหลากหลายฉายาไม่ว่า "เรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะ" "ดงผีดิบ" "แดนสนธยา" "เช้ายามเย็นชาม" แค่ฟังฉายาก็พอจะเดาได้ว่า หน่วยงานบนชั้น 3 แห่งนี้มีบรรยากาศการทำงานเป็นเช่นไร แต่หน่วยงานชั้น 3 แห่งนี้กลับมีหน้าที่สำคัญของบริษัท ซึ่งทุกๆ หน่วยงานในบริษัทก็จำเป็นจะต้องติดต่อกับผู้คนในหน่วยงานนี้กันทั้งสิ้น
อะไรที่เป็นมาอย่างนั้น ย่อมเป็นการยากที่จะเปลี่ยนแปลง แมรี่ประมวลสถานการณ์ และพยายามหาวิธีการจัดการกับปัญหาภายในหน่วยงานชั้น 3
"ซัล มอนหนึ่งบินเดี่ยวไปมินเนโซตา" เสียงหัวเราะ และเสียงปรบมือ ดังขึ้น ปลาลอยผ่านหน้าแมรี่ไปขณะที่เธอเดินไปตามเสียงเหล่านั้นราวกับถูกมนต์สะกด เมื่อเข้าไปในตลาดปลา ที่นี่เธอได้รับลูกกุญแจที่สามารถไขปัญหาที่ครุ่นคิดมานาน โดยผ่านลอนนี่ พ่อค้าหนุ่มแผงปลา
แมรี่เปรียบเทียบกลุ่มคนที่ทำงานในหน่วยงานชั้น 3 เหมือนนาฬิกาที่หมดลานก่อนหมดเวลา แมรี่ใช้วิธีพูดเปิดใจกับทุกคนในหน่วยงานชั้น 3 ที่น่าประทับใจว่า "ชีวิตมีค่าเกินกว่าจะปล่อยให้มันผ่านไปจนถึงวัยเกษียณ เราต้องใช้เวลาในการทำงานมากเสียจนฉันคิดว่า เราควรต้องทำให้ที่ทำงานของเรามีบรรยากาศดีกว่านี้"
ตลาดปลาให้ข้อคิดอะไร
1. เลือกทัศนคติของคุณ โดยเลือกที่จะยิ้ม หรือจะยักษ์ในแต่ละวันของชีวิต นั่นคือ เลือกที่จะสุขหรือทุกข์
2. เล่นให้เป็นงาน สิ่งที่เราทำหายไปจากวัยเยาว์จนถึงวัยทำงาน คือเราลืมที่จะสนุกกับสิ่งที่เราทำ เด็กเล็กๆ มักจะสนุกกับการเล่น จึงทำให้ชีวิตของพวกเขามีชีวิตชีวา
3. สร้างสรรค์วันดีๆ ทำบรรยากาศรอบตัวเราให้ดี (ใส่อารมณ์ความสนุกเข้าไป)
4. ใส่ใจให้บริการ เมื่อเราสนุก ทุกคนก็สนุกกับเรา งานก็สนุกกับเรา และเราก็ใช้ชีวิตอย่างสนุกและมีความสุขในสิ่งที่ทำ
แมรี่แวะไปตลาดปลาหลายครั้ง พร้อมกับนำสิ่งที่ได้ไปปรับใช้กับหน่วยงานชั้นที่ 3
ทุก คนในหน่วยงานเริ่มปรับทัศนคติ และภายในเวลาไม่นานทุกๆ หน่วยงานในบริษัทต่างอยากย้ายเข้ามาทำงานในหน่วยงานชั้นที่ 3 ของบริษัท ว้า.. แท้จริงการทำงานที่เป็นสุขไม่ได้อยู่ที่แผนกแต่อยู่ที่การสร้างบรรยากาศแห่ง ความสุขของหน่วยงานนั้นๆ ตะหากสิเนี๊ยะ 555
เป็นการแทรกแนวคิดทางการ บริหารที่ไม่เครียดผ่านเรื่องแต่งและกรณีศึกษาที่เหมือนได้อ่านเรื่องสั้น เรื่องนึง เรื่องจบเหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงแต่หักมุมเล็กๆ เมื่อพ่อค้าหนุ่มแผงปลาลอนนี่ขอแมรี่แต่งงาน สาวมาดนักธุรกิจกับหนุ่มพ่อค้าแผงปลาเดินเคียงข้างกัน
คุณมีความ สุขกับสิ่งที่คุณทำไหม อ่าน Fish จบแล้ว ก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะอ่านอีก เพราะว่า เป็นหนังสือที่ไม่ได้สอนแค่การจัดการทางธุรกิจ แต่สามารถนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของเราได้ทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องงาน ^__^
เนื้อหาข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ fish philosophy
++ ปรัชญาแห่ง FISH! พิชิตความสุขในการทำงาน ++
องค์กร FiSH! คืออะไร?
Author: Stephen C. Lundin, Ph, D., Harry Paul ..
แปลโดย จิระนันท์ พิตรปรีชา
ปรัชญาปลายิ้ม แนวคิดที่เรียบง่ายนำมาเปลี่ยนแปลงทีมงานให้มีพลังอีกครั้ง กับสี่ข้อคิด
เล่น - Play งานสำเร็จเมื่อคุณสนุกกับงาน
สร้างสรรค์วันดีๆ - Make their Day สร้างวันดีๆหรือเวลาดีๆที่น่าจดจำให้เพื่อร่วมงาน
ใส่ใจให้บริการ Be there ให้ใจอย่างเต็มที่ต่อกันและกัน อยู่ตรงนั้น ไม่ล่องลอยจากปัญหา
เลือกทัศนคติ - Choose your attitude มองหาสิ่งดีๆในการทำงาน
เลยขอนำเอา หนังสือ fish philosophy ป[ล]าฎิหารย์ มาบันทึกไว้ที่นี่ซักครั้ง
ตลาดปลาใน เมืองซีแอตเติล คือกรณีศึกษาของชีวิตคนกลุ่มหนึ่งที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานอันน่าเบื่อของ ตลาดขายปลาเป็นตลาดมหาสนุก ทุกคนทำงานด้วยความสนุกสนาน และทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกกับบรรยากาศนั้นไปด้วย
"จงรักในสิ่งที่คุณ ทำ" หากคุณไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณรัก ก็จงรักในสิ่งที่คุณทำซะ คิดง่ายจัง แต่ในชีวิตเราหลายๆ คน สิ่งที่ฝันที่หวังกับสิ่งที่ได้มาจริงๆ อาจเป็นคนละเรื่องกันเลย นั่นขึ้นอยุ่กับโอกาสในชีวิต แล้วคุณจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อคุณต้องอยู่กับสิ่งนั้น และนั่นคือชีวิตของคุณ
"Fish" เป็นเรื่องแต่งที่สอดแทรกแนวคิดทางธุรกิจ ที่เต็มไปด้วยพลังการคิดสร้างสรรค์ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกๆ คน ไม่ว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นคืออะไร เพียงเรารักในสิ่งที่เราจะทำเท่านั้น (เหมือนเวียนไปเวียนมา) 555
เรื่องเริ่มจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแม่ รี่ เจน รามิเรซ ซึ่งเธอต้องย้ายงานและตามสามีมาอยู่ที่ซีแอนเติล พร้อมกับลูกๆ ของเธอ แรกๆ แดนสามีของเธอมักกลับมาเล่าเรื่องที่ทำงานใหม่ให้ฟังซึ่งงานเขากำลังไปได้ดี แต่แล้วโรคร้ายปัจจุบันทันด่วนก็มาพรากสามีเธอไปอย่างรวดเร็ว
Fish สอนให้มองว่า ชีวิตคนเรามักไม่แน่นอน ถ้าคุณเป็นแมรี่ คุณจะทำยังไง เธอเป็น working women คนนึง ชีวิตที่ซวนเซไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ยังก้าวต่อไป
ปีต่อมาเธอก้าวเป็น "หัวหน้าคนเก่ง" ด้วยความเป็นมืออาชีพ เธอถูกหัวหน้าส่งไปจัดการกับปัญหาของหน่วยงานบนชั้น 3 ของบริษัท ซึ่งมีหลากหลายฉายาไม่ว่า "เรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะ" "ดงผีดิบ" "แดนสนธยา" "เช้ายามเย็นชาม" แค่ฟังฉายาก็พอจะเดาได้ว่า หน่วยงานบนชั้น 3 แห่งนี้มีบรรยากาศการทำงานเป็นเช่นไร แต่หน่วยงานชั้น 3 แห่งนี้กลับมีหน้าที่สำคัญของบริษัท ซึ่งทุกๆ หน่วยงานในบริษัทก็จำเป็นจะต้องติดต่อกับผู้คนในหน่วยงานนี้กันทั้งสิ้น
อะไรที่เป็นมาอย่างนั้น ย่อมเป็นการยากที่จะเปลี่ยนแปลง แมรี่ประมวลสถานการณ์ และพยายามหาวิธีการจัดการกับปัญหาภายในหน่วยงานชั้น 3
"ซัล มอนหนึ่งบินเดี่ยวไปมินเนโซตา" เสียงหัวเราะ และเสียงปรบมือ ดังขึ้น ปลาลอยผ่านหน้าแมรี่ไปขณะที่เธอเดินไปตามเสียงเหล่านั้นราวกับถูกมนต์สะกด เมื่อเข้าไปในตลาดปลา ที่นี่เธอได้รับลูกกุญแจที่สามารถไขปัญหาที่ครุ่นคิดมานาน โดยผ่านลอนนี่ พ่อค้าหนุ่มแผงปลา
แมรี่เปรียบเทียบกลุ่มคนที่ทำงานในหน่วยงานชั้น 3 เหมือนนาฬิกาที่หมดลานก่อนหมดเวลา แมรี่ใช้วิธีพูดเปิดใจกับทุกคนในหน่วยงานชั้น 3 ที่น่าประทับใจว่า "ชีวิตมีค่าเกินกว่าจะปล่อยให้มันผ่านไปจนถึงวัยเกษียณ เราต้องใช้เวลาในการทำงานมากเสียจนฉันคิดว่า เราควรต้องทำให้ที่ทำงานของเรามีบรรยากาศดีกว่านี้"
ตลาดปลาให้ข้อคิดอะไร
1. เลือกทัศนคติของคุณ โดยเลือกที่จะยิ้ม หรือจะยักษ์ในแต่ละวันของชีวิต นั่นคือ เลือกที่จะสุขหรือทุกข์
2. เล่นให้เป็นงาน สิ่งที่เราทำหายไปจากวัยเยาว์จนถึงวัยทำงาน คือเราลืมที่จะสนุกกับสิ่งที่เราทำ เด็กเล็กๆ มักจะสนุกกับการเล่น จึงทำให้ชีวิตของพวกเขามีชีวิตชีวา
3. สร้างสรรค์วันดีๆ ทำบรรยากาศรอบตัวเราให้ดี (ใส่อารมณ์ความสนุกเข้าไป)
4. ใส่ใจให้บริการ เมื่อเราสนุก ทุกคนก็สนุกกับเรา งานก็สนุกกับเรา และเราก็ใช้ชีวิตอย่างสนุกและมีความสุขในสิ่งที่ทำ
แมรี่แวะไปตลาดปลาหลายครั้ง พร้อมกับนำสิ่งที่ได้ไปปรับใช้กับหน่วยงานชั้นที่ 3
ทุก คนในหน่วยงานเริ่มปรับทัศนคติ และภายในเวลาไม่นานทุกๆ หน่วยงานในบริษัทต่างอยากย้ายเข้ามาทำงานในหน่วยงานชั้นที่ 3 ของบริษัท ว้า.. แท้จริงการทำงานที่เป็นสุขไม่ได้อยู่ที่แผนกแต่อยู่ที่การสร้างบรรยากาศแห่ง ความสุขของหน่วยงานนั้นๆ ตะหากสิเนี๊ยะ 555
เป็นการแทรกแนวคิดทางการ บริหารที่ไม่เครียดผ่านเรื่องแต่งและกรณีศึกษาที่เหมือนได้อ่านเรื่องสั้น เรื่องนึง เรื่องจบเหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงแต่หักมุมเล็กๆ เมื่อพ่อค้าหนุ่มแผงปลาลอนนี่ขอแมรี่แต่งงาน สาวมาดนักธุรกิจกับหนุ่มพ่อค้าแผงปลาเดินเคียงข้างกัน
คุณมีความ สุขกับสิ่งที่คุณทำไหม อ่าน Fish จบแล้ว ก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะอ่านอีก เพราะว่า เป็นหนังสือที่ไม่ได้สอนแค่การจัดการทางธุรกิจ แต่สามารถนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของเราได้ทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องงาน ^__^
เนื้อหาข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ fish philosophy
++ ปรัชญาแห่ง FISH! พิชิตความสุขในการทำงาน ++
องค์กร FiSH! คืออะไร?
ความคิดเห็น