รวมข่าวความเคลื่อนไหว AEC ในประเทศ 1-10 มกราคม 2012
**พัฒนาฝีมือรุกตลาด ตปท.-รองรับAEC เกือบครึ่งปีหลังของปี 2554 กระทรวงแรงงานภายใต้การบริงานโดยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง มีนโยบายใหญ่ๆ ที่ถูกผลักดันออกมาเป็นรูปเป็นร่างรอการบังคับใช้ในปี 2555 ทั้งในส่วนของภาคแรงงาน และในส่วนของระบบประกันสุขภาพ อย่างนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ใน 7 จังหวัด และ 40% ในจังหวัดที่เหลือที่ถูกผลักดันออกมาเป็นกฎหมายแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2555 และนโยบายการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ จากระบบเหมาจ่ายรายปี เป็นระบบจ่ายตามกลุ่มโรคร้ายแรงของผู้ป่วยใน ของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงแรงงาน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2555 ทั้งนี้ แนวทางของมาตรการในปี 2555 จึงต้องสอดรับกับนโยบายเดิม และรองรับนโยบายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ ดังนี้ **กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวว่า กรมพัฒฯ จะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น ต้องบุกมากกว่าตั้งรับ เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ในปี 2558 โดยจะเน้นแรงงานในภาคธุรกิจยานยนตร์ที่ไทยเป็นศูนย์การการผลิตของโลก ด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีความเชี่ยวชาญในทุกภาคส่วนของธุรกิจประเภทนี้ เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเข้ามาช่วงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ซึ่งจะมีการประสานกับทางกระทรวงศึกษาเพื่อนำนักศึกษาอาชีวะมาพัฒนาฝีมือแรงงานรองรับธุรกิจประเภทนี้ “ส่วนแรงงานในประเทศ นอกจากจะมีการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ใน 7 จังหวัดนำร่อง และอีก 40% ทั้งประเทศ ในปี 2555 แล้วนั้น ก็จะมีการเน้นพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ได้ค่าจ้างที่เพิ่มมากขึ้น เพราะขณะนี้ก็มีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ สามารถรับค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า 400-600 บาทต่อวัน ซึ่งจะเป็นผลดีกว่าการส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศที่แม้จะเงินเดือนสูงกว่า แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็แทบไม่ต่างกับรายรับที่ได้จากการทำงานในประเทศ” รมว.แรงงานกล่าว | ||||
นายเผดิมชัยกล่าวว่า จะมีการส่งเสริมแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น ผ่านสัญญาการจ้างงานแบบรัฐต่อรัฐ โดยจะรุกตลาดทั้งในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง และในตะวันออกกลาง เช่น ลิเบีย อิสราเอล เป็นต้น ซึ่งจะมีการประสานกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้นักโทษที่ได้รับอภัยโทษประมาณ 28,000 คน มีงานทำด้วยการทำงานร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ความรู้ด้านภาษา และวัฒนธรรม “อีกทั้งยังต้องมีการควบคุมดูแลบริษัทจัดหางานไปทำในต่างประเทศให้เข้มข้นขึ้น เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาร้องเรียน เช่น ถูกหลอกเก็บค่าใช้จ่ายแล้วไม่ได้ไปทำงาน เสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าความเป็นจริง หรือแม้กระทั่งได้ไปทำงานยังต่างประเทศแล้วแต่ไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบบริษัทจัดหางานเหล่านี้ให้เข้มข้นมากขึ้น พร้อมทั้งป้องกันปัญหาด้วยการส่งแรงงานไปทำงานแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งจะช่วยให้แรงงานสามารถไปทำงานได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทตัวแทน” นายเผดิมชัยกล่าว **กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า จะมีมาตรการรองรับนโยบาย 300 บาท ด้วยการออกไปอธิบายให้ผู้ประกอบการฟังเพื่อทำความเข้าใจ ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือจากทางภาครัฐอย่างไรบ้าง เช่น มาตรการลดภาษี การช่วยพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น ขณะเดียวกันก็จะมีมาตรการตรวจสอบ หากนายจ้างไม่จ่ายค่าแรงตามที่กฏหมายกำหนดก็จะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของลูกจ้างก็ต้องมีการทำความเข้าใจในเรื่องมาตรการที่ต้องช่วยเหลือนายจ้าง เช่น การพัฒนาตัวเองทั้งทางด้านฝีมือการทำงานและเรื่องความซื่อสัตย์ เพื่อเป็นการลดตุ้นทุนให้กับนายจ้าง เพราะหากนายจ้างแบกรับต้นทุนไม่ไหวผลที่ตามมาคือการเลิกจ้าง | ||||
**สำนักงานประกันสังคม (สปส.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการประกันสังคม กล่าวว่า จะมีการปรับระบบบริการทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารักษากับโรงพยาบาลในระบบ สปส.ได้ทุกแห่ง เริ่มจากสามารถรับการรักษาจากโรงพยาบาลของรัฐในเครือข่ายเดียวกันของแต่ละสังกัดก่อน ประกอบด้วย โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกระทรวงกลาโหม และโรงพยาบาลสังกัด กทม. แล้วจึงพัฒนาให้ข้ามเครือข่ายกันได้ในภายหลัง ทั้งนี้จะปรับปรุงวิธีการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาลให้เหมาะสมต่อไป รวมถึงจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้วย ทั้งประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ 40 |
กสอ.เปิดแผนงานปี 55 มุ่งพัฒนาเอสเอ็มอี ทั้งปั้นหน้าใหม่และรายเดิมให้มีศักยภาพพร้อมก้าวสู่เวทีการแข่งขันเปิดเสรีอาเซียน ระบุเน้นเสริมแกร่งเชิงลึก
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า แนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของกรมฯ ในปี 2555 จะแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่จะเข้าไปดูแล ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของกิจการเอง 2. วิสาหกิจทั่วไปที่รวมกลุ่มกัน และ 3. วิสาหกิจชุมชน หรือโอทอป
ทั้งนี้ แผนงานหลักที่กรมฯ ได้วางไว้ ประกอบไปด้วย 1. การพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ในแบบสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ตั้งเป้าจำนวน 3,500 ราย ซึ่งผู้ประกอบการรุ่นใหม่นี้ ต้องพร้อมจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วย 2. การพัฒนาเจ้าของกิจการรายเดิมให้ได้รับความรู้ เรื่องการจัดการสมัยใหม่ในทุกด้าน เพื่อปรับตัวเข้ากับการค้าในยุคใหม่ และ 3. เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“จะเห็นได้ว่า แผนการดำเนินงานในปี 2555 ทั้ง 3 แผน ยังคงมุ่งไปที่การพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถที่จะรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2015 ในแบบลงลึกมากขึ้น เป็นการทำงานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่เน้นการให้ความรู้ในเรื่องในเบื้องต้น แต่ในปี 2555 จะเน้นเรื่องของการพัฒนาและการปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง ในตลาดอาเซียน” นายพสุ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการหลักที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 คือ คัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 8,000 รายทั่วประเทศ ที่มีความรู้ในเรื่องของ AEC มากพอสมควร มาเข้าร่วมเวิร์คชอป การประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยจะแบ่งการทำ เวิร์คชอปเป็นกลุ่มๆละ 50-60 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ให้มีความเข้มแข็ง พร้อมก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค โดยทางกรมฯจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลแบบรายกิจการ รวมถึง คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในการทำตลาดในอาเซียนมาร่วมเป็นพี่เลี้ยง นอกจากนี้ ในปี 2555 ให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product development) เพื่อรองรับการที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอาเซียน
http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9550000000588
สสว.อัดงบ600ล.เตรียมพร้อมSMEไทยสู่ตลาดAEC
Jan 07, 2012 (08:15 AM)
สสว.ทุ่มงบอีก 600 ล้านบาท เตรียมความพร้อมด้านการแข่งขันและทุกๆด้านแก่เอสเอ็มอีไทย 3 ด้านก้าวสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน( AEC)
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว.เตรียมความพร้อมเอสเอ็มอีไทย ซึ่งมีจำนวนถึง 2.82 ล้านกิจการ คิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนกิจการทั้งหมดในประเทศไทย ให้ก้าวสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพราะตลาด AEC จะที่มีขนาดตลาดใหญ่ขึ้นด้วยจำนวนประชากรรวมกันกว่า 550 ล้านคน
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ สสว.เตรียมความพร้อมให้ เป็นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่กลุ่มที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และกลุ่มที่อยู่ปลายน้ำ ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเครื่องเรือนและเฟอร์นิเจอร์ หัตถกรรมสิ่งพิมพ์ อาหารและท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยทุ่มงบประมาณในการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ รวม 287 ล้านบาท
โดยปีงบประมาณ 2554 สสว.คาดว่า จะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มจากสำนักงบประมาณเป็น 600 ล้านบาท ซึ่ง สสว.จะนำงบประมาณที่ได้รับการจัด สรรเตรียมความพร้อมของเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยปีงบ 2554 จะเน้นใน 3 ด้านคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความพร้อมในทุก ๆ ด้านของเอสเอ็มอี การสร้างรายได้ เสริมสร้างศักยภาพ โดย สสว.จะเข้าไปร่วมมือกับผู้ว่า ราชการจังหวัดทั่วประเทศในการพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ด้านสุดท้ายที่จะดำเนินการคือ การสานต่อการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน ตลาดข้อตกลงเขตการค้าเสรี และการบุกเข้าสู่ตลาด AEC ของเอสเอ็มอีไทยต่อไป
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตัวอย่างของการเตรียมความพร้อมให้กับเอสเอ็มอี ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่จะออกไปรับงานก่อสร้างในประเทศอาเซียนอย่าง สปป.ลาว และเวียดนามที่เริ่มพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง โดยมีการสนับสนุนให้มีการสร้างฐานข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจ ต่อเนื่อง ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนที่ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ การจัดทำคู่มือเครือข่าย SMEs Consortium สำหรับเป็นเครื่องเชื่อมโยงข้อมูล ตลอดจนสายสัมพันธ์ในสายอุปทานในลักษณะพันธมิตรระยะยาว และเสริมสร้างเครือข่ายหุ้นส่วนผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและ อุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีจำนวนทั้งสิ้น 94,557 ราย มีการจ้างงาน 449,877 คน มูลค่ารายได้ในปี 2550 ประมาณ 245,523 ล้านบาท และได้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 16,121 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 8,794 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว.เตรียมความพร้อมเอสเอ็มอีไทย ซึ่งมีจำนวนถึง 2.82 ล้านกิจการ คิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนกิจการทั้งหมดในประเทศไทย ให้ก้าวสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพราะตลาด AEC จะที่มีขนาดตลาดใหญ่ขึ้นด้วยจำนวนประชากรรวมกันกว่า 550 ล้านคน
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ สสว.เตรียมความพร้อมให้ เป็นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่กลุ่มที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และกลุ่มที่อยู่ปลายน้ำ ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเครื่องเรือนและเฟอร์นิเจอร์ หัตถกรรมสิ่งพิมพ์ อาหารและท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยทุ่มงบประมาณในการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ รวม 287 ล้านบาท
โดยปีงบประมาณ 2554 สสว.คาดว่า จะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มจากสำนักงบประมาณเป็น 600 ล้านบาท ซึ่ง สสว.จะนำงบประมาณที่ได้รับการจัด สรรเตรียมความพร้อมของเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยปีงบ 2554 จะเน้นใน 3 ด้านคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความพร้อมในทุก ๆ ด้านของเอสเอ็มอี การสร้างรายได้ เสริมสร้างศักยภาพ โดย สสว.จะเข้าไปร่วมมือกับผู้ว่า ราชการจังหวัดทั่วประเทศในการพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ด้านสุดท้ายที่จะดำเนินการคือ การสานต่อการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน ตลาดข้อตกลงเขตการค้าเสรี และการบุกเข้าสู่ตลาด AEC ของเอสเอ็มอีไทยต่อไป
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตัวอย่างของการเตรียมความพร้อมให้กับเอสเอ็มอี ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่จะออกไปรับงานก่อสร้างในประเทศอาเซียนอย่าง สปป.ลาว และเวียดนามที่เริ่มพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง โดยมีการสนับสนุนให้มีการสร้างฐานข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจ ต่อเนื่อง ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนที่ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ การจัดทำคู่มือเครือข่าย SMEs Consortium สำหรับเป็นเครื่องเชื่อมโยงข้อมูล ตลอดจนสายสัมพันธ์ในสายอุปทานในลักษณะพันธมิตรระยะยาว และเสริมสร้างเครือข่ายหุ้นส่วนผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและ อุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีจำนวนทั้งสิ้น 94,557 ราย มีการจ้างงาน 449,877 คน มูลค่ารายได้ในปี 2550 ประมาณ 245,523 ล้านบาท และได้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 16,121 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 8,794 ล้านบาท
AEC » แผนกงานห้องสมุด ฝ่ายวิทยบริการ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยี ... ขอเชิญร่วมชมนิทรรศ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community: AEC) ณ แผลกงานห้องสมุดชั้น 1 โดยท่านจะได้พบกับนิ library.oarit.rmuti.ac.th/tag/ ท่านผู้ว่าฯเปิดงานพูดถึง AEC | คลิป | สุขสบาย ท่านผู้ว่าฯเปิดงานพูดถึง AEC. By PhitsanulokTourism @ Mon, 26 Dec 2011 11:25 AM. M2U01669 Phitsanulok Tourism. ... www.suksabuy.com/.../ดูคลิป-ท่ ส่งโครงการ”ต้นกล้าทูโกล”พั โดย ja_cmnews สำนักงานส่งเสริมการส่ เชียงใหม่ ข่า... กสอ. เผยแผนปี 55คัดผปก.8 พันราย มุ่งเป้าติวเข้มเอสเอ็มอีสู่ กสอ. เผยแผนปี 55คัดผปก.8 พันราย มุ่งเป้าติวเข้มเอสเอ็มอีสู่ www.publichot.com/forums/
AEC - Siam Intelligence โดย chaismart สถาบันองค์ความรู้แห่งเอเชีย (AKI) ได้จัดทำแบบสำรวจการรับรู้เกี่ Siam Intelligence AEC - Siam Intelligence โดย chaismart สถาบันองค์ความรู้แห่งเอเชีย (AKI) ได้จัดทำแบบสำรวจการรับรู้เกี่ Siam Intelligence
เมื่อโลกทั้งใบเชื่อมโยงกั daily.bangkokbiznews.com/ | ||||||||||||||
กรมเจรจาฯ เผยไทยสอบผานแผนงานเดินหนา AEC นางศ กรมเจรจาฯ เผยไทยสอบผานแผนงานเดินหนา AEC. นางศรีรัตน รัฐปานะ อธิบดีกรม เจรจาการคาระหวางประเทศ กระทรวงพาณิชย เปดเผย ... www.aihd.mahidol.ac.th/sites/ |
ความคิดเห็น