- ม๊อด ( moderator ) ที่ดีต้องช่วยดึงคนดูและคนพูดให้อยู่กับการสัมมนา
- ม๊อด ไม่ต้องสรุปทุกประเด็นที่วิทยากรพูด เพราะจะทำให้คนดูไม่สนใจวิทยากร รอฟังสรุป
- ม๊อด เก่งๆคือคนที่ทำให้การเสวนาบนเวทีลื่นไหล ไม่ติดขัดและกระชับได้ประเด็น ไม่ใช่คนที่สรุปเก่งเสนอความคิดที่เด่นกว่าวิทยากร
- ได้รับการโค๊ชเรื่องน้ำเสียง ว่าคนเสียง FM อย่างผมต้องรู้จักการพูดปรับโทนเสียง
- การสอนในปัจจุบัน คนมีความรู้เยอะ จะทำได้ดีต้องใช้วิธีเล่าเรื่อง Storytelling มือหนึ่งที่เก่งที่สุดในสายตาพี่ฮิม คือ คุณปั้น เพราะการสอนผ.อ. แต่ละคนไม่ใช่จะสอนกันง่ายๆ ต้องมีเรื่องให้ชวนคิดตาม
- การพูดบนเวทีเสวนา ให้มีเสน่ห์ ยากกว่าการพูดเดียวตรงจุดที่ ต้องใช้สายตากับคนดูและพิธีกรไปอย่างเหมาะสม คำไหนจะเน้นให้จำ หันหน้าเข้าหาคนดู
- มุกตลกร้าย ให้เอาตัวเองเป็นผู้ร้าย การยกตัวอย่างที่ไม่ดีหรือข้อบกพร่องให้ใช้ตัวเองเป็นตัวละคร

เมื่อถึงวันพูดจริงทีมงานพัฒนาทรัพยากรบุคคล จัดเตรียมอาหารให้วิทยากรก่อนเริ่มการสัมมนา น้องๆมาต้อนรับอย่างดี ดูแลไม่ขาดตกบกพร่องจนเขิล (ลูกน้องตัวเองไม่เห็นดูแลดีขนาดนี้ บ่น บ่น )
ขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ พร้อมแล้วสำหรับคำถามจากน้องมิ้น
- ก่อนขึ้นเวที ปรับหัวใจตัวเองก่อนว่า เราคือคนตัวอย่าง เราคือคนที่สำเร็จ พร้อมจะแบ่งปัน แล้วขึ้นไปสนุกบนเวที
คำถามแรก ให้ช่วยเล่าเคล็ดลับการประสบความสำเร็จใน KBank (ฝ่างงงงงงง) มาถึงก็เล่าเลย ปูพื้นตัวเองก่อนนิสนึง ให้คนพอรู้จัก
ทำงานที่ KBank มา9 ปีเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญงานกลยุทธ์การตลาดลูกค้าผู้ประกอบการ ยิงไปหนึ่งมุก คือ..ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนี้หล่ะเล็กสุดแล้วของธนาคารเรา (ฮา) บราบราบราไป เข้ามาถึงสิ่งที่อยากบอกสองเรื่องสำหรับการประสบความสำเร็จ ต้องมีสองอย่าง 1.เป้าหมาย 2.ทัศนคติ
เป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครอยากเดินทางร่วมกับคนที่ไม่มีเป้าหมาย #ความรักก็เช่นกัน สิ่งนี้นายช่วยสร้างให้ครึ่งหนึ่งแต่เราต้องเติมเต็มอีกครึ่งหนึ่ง ชีวิตคนทำงานเป้าหมายส่วนตัวหากไม่ตรงกับงานต้องปรับตัวเข้าหางาน ให้ได้ อย่าเชื่อตำราข้างๆคูๆหรือ MLM เผาหัว ที่ต้องเลือกงานให้ตรงกับเป้าหมายชีวิต ต้องมีอิสรภาพทางการเงิน งานประจำทำไม่รวย ไม่มีใครรวยจากงานประจำ ปรับเป้าหมายให้ตรงกับเป้าหมายองค์กร และซอยย่อยให้เป็น งานที่ต้องทำ กำหนดเวลาชัดเจน นี่คือพื้นฐานความสำเร็จ
ทัศนคติ เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ที่ต้องสร้างขึ้นด้วยตนเอง คนอื่นปรับเปลี่ยนให้เราไม่ได้ ทัศนคติที่ดีต่อปัญหา บอกน้องๆทุกคนไม่ต้องกล้วการเจอปัญหา เพราะต้องเจอแน่ๆๆๆๆ สิ่งที่ฝากไว้ให้เป็นทัศนคติสำคัญเลย " เค้าจ้างเรามาเพื่อแก้ปัญหา หากไม่มีปัญหาเค้าไม่จ้างเรา" ต้องแก้ปัญหาและปรับปรุงพัฒนาตัวเองเสมอ
เครื่องพิมพ์ดีด คนซื้อมาเพื่อแก้ปัญหาการเขียนการพิมพ์จดหมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีเปลี่ยน คนก็ไม่ใช้เครื่องพิมพ์ดีดแล้ว ทุกคนใช้คอมพิวเตอร์เล่าเรื่องนี้เพราะอยากให้ทุกคนมองตัวเองเป็นสินค้า ต้องแก้ปัญหาและพัฒนาต่อเนื่อง ไม่งั้นหมดปัญหาหากเราไม่มีการพัฒนาก็อาจไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
คำถามที่สอง งานก็เยอะ เวลาก็น้อย แบ่งเวลายังไง
- ก่อนแบ่งเวลา ต้องรู้จักการแบ่งประเภทงาน งานสำคัญ กับงานด่วน ทำงานด่วนก่อนงานสำคัญ แต่ต้องมั่นใจว่างานสำคัญไม่เสียหาย
- ประสบการณ์ส่วนตัวแบ่งเวลา ตามหลัก 8 : 8 : 8 ทำงาน : เล่น : พักผ่อน
- เวลาทำงานทำเต็มที่ไม่ว๊อกแว็ก 8 ชั่วโมงงานเสร็จแน่
- หากเต็มที่กับงาน จะเล่นกับลูก คุยกับแฟน เตะบอล ทานข้าว เล่นกีฬา แต่คนกรุงเทพต้องเผื่อเวลานี้ไว้เดินทางด้วย
- พักผ่อน ออกกำลังกายสำหรับบางคนก็เป็นการพักผ่อน เวลานี้คือเวลาที่เราจะฟักสมอง มองท้องฟ้า ฟังเพลงนอนหลับ นอนให้พอไม่งั้น จะทำอย่างอื่นไม่ได้สำเร็จ
จบการพูดในสามสิบนาที เป็นการพูดจากใจล้วนๆไม่ได้เตรียมสคริปอะไร แต่รู้สึกเป็นการพูดที่ชอบมากที่สุดของปีนี้เลย