เราจะนำแนวคิดเรื่อง AI มาใช้ในธุรกิจ SME ได้อย่างไร AI For SME
เราจะนำแนวคิดเรื่อง AI มาใช้ในธุรกิจ SME ได้อย่างไร
มาทำความเข้าใจ AI กันก่อน
AI (Artificial Intelligence) คือการสร้างความฉลาด(Intelligence) ขึ้นมาโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ทำงานเสมือนเป็นมนุษย์ ช่วยการบริหารจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมากๆมหาศาล( Big Data) ช่วยตัดสินใจแทนหรือเสนอทางเลือก ให้มนุษย์เราตัดสินใจอีกทางหนึ่ง AI มีทั้งแบบที่เรากำหนดแนวทางการตอบให้เค้าทำงาน อาทิการกำหนดคำตอบของคำถามที่ถามมาในข้อความ และแบบที่ให้เค้าเลือกให้เองก็ได้ อย่างภาพด้านบนนี้ก็สร้างจาก AI Wombo.art หรือที่คุณเคยอย่างการเดินทางด้วย Google mapAI ในไทยมีการพัฒนาอย่างไรบ้างในปัจจุบัน
การพัฒนา AI เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นจนเราไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรใหม่แล้ว มันเป็นเทคโนโลยีปัจจุบันที่เราใช้จนชิน ตั้งแต่ออกจากบ้าน จนกลับเข้านอนในปัจจุบันมีข้อมูลในรูปแบบดิจิตอลเกิดขึ้นมากมาย ประกอบกับการประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น AI จึงเข้ามาช่วยจัดการข้อมูลต่างๆให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
ตั้งแต่ตื่นมา เปิดมือถือ AI ของFacebook เลือกคอนเทนต์ที่ดีที่สุดที่เราน่าจะอยากอ่านส่งมาให้เรา
วางแผนการเดินทางด้วย Google Map ที่เลือกเส้นทางที่ประหยัดเวลาที่สุดให้เรา จากการเอาข้อมูลของคนบนถนน ณ ขณะนั้นมาช่วยสร้างทางเลือกเส้นทางให้เรา
การค้นหาข้อมูลด้วยเสียง หรือ ถามคำถามเป็นประโยค ไปในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ได้คำตอบที่เราต้องการ อย่างรวดเร็ว
เดินในห้างสรรพสินค้า มีข้อความโปรโมชั่นเฉพาะเราเข้ามาในมือถือ ก็ล้วนมาจากการทำงานอัตโนมัติ
เรียกรถโดยสารสาธารณะ จากการกดที่มือถือ ไม่ต้องคอยบอกเส้นทาง ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ AI ใกล้ๆตัวเรา
นี่คือตัวอย่างของการพัฒนา AI ในปัจจุบันที่ทำให้ชีวิตของเราสะดวกง่ายดายมากขึ้น
AI ส่งผลอย่างไรกับธุรกิจSME
สำหรับคนทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีคือทางรอดของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มักประสบปัญหาในการหาคนเก่งๆมาร่วมทำงาน การใช้ศักยภาพของเทคโนโลยี AI ช่วยให้เราได้มาก
การหาสินค้าหรือโอกาสธุรกิจใหม่ เลือกตั้งราคา จัดโปรโมชั่นแบบไหนโดนใจ
เมื่อก่อนธุรกิจแบบ SME คงทำได้แค่ลองทำของออกมาทดลองขายที่หน้าร้านตัวเอง ทำแบบสำรวจด้วยกระดาษกับลูกค้า
แต่ยุคนี้เราสามารถ หาข้อมูลได้ก่อนว่ามีความต้องการสินค้าที่เราคิดจะทำหรือไม่ โดยอาศัยเครื่องมือของ Google เช็คดูว่ามีคนค้นหาของแบบนี้หรือป่าว แถมเรายังสามารถเอารูปสินค้ามาจัดโปรโมชั่น ส่งไปหาลูกค้าที่น่าจะสนใจได้ก่อน ผ่านเครื่องมืออย่าง Facebook ที่มี AI เก็บข้อมูลไว้ให้เราแล้วว่าใครบ้างที่น่าจะสนใจสิ่งเหล่านี้ เราสามารถทดสอบได้จนมั่นใจว่าของเราจะขายได้หรือไม่ได้ค่อยผลิต หรือ สั่งนำเข้ามาขาย ความแม่นยำในการเลือกสินค้าไม่ต่างจาก ฝ่ายจัดซื้อห้างใหญ่ๆค่าตัวแพงๆเลย
เมื่อก่อนธุรกิจแบบ SME คงทำได้แค่ลองทำของออกมาทดลองขายที่หน้าร้านตัวเอง ทำแบบสำรวจด้วยกระดาษกับลูกค้า
แต่ยุคนี้เราสามารถ หาข้อมูลได้ก่อนว่ามีความต้องการสินค้าที่เราคิดจะทำหรือไม่ โดยอาศัยเครื่องมือของ Google เช็คดูว่ามีคนค้นหาของแบบนี้หรือป่าว แถมเรายังสามารถเอารูปสินค้ามาจัดโปรโมชั่น ส่งไปหาลูกค้าที่น่าจะสนใจได้ก่อน ผ่านเครื่องมืออย่าง Facebook ที่มี AI เก็บข้อมูลไว้ให้เราแล้วว่าใครบ้างที่น่าจะสนใจสิ่งเหล่านี้ เราสามารถทดสอบได้จนมั่นใจว่าของเราจะขายได้หรือไม่ได้ค่อยผลิต หรือ สั่งนำเข้ามาขาย ความแม่นยำในการเลือกสินค้าไม่ต่างจาก ฝ่ายจัดซื้อห้างใหญ่ๆค่าตัวแพงๆเลย
การหาลูกค้าใหม่ขายเพิ่มลูกค้าเก่า เมื่อจะเริ่มต้นขายสินค้า หากเรามีข้อมูลลูกค้าเก่าอยู่แล้วใน LINE หรือ ลูกค้าที่เคยเข้ามาซื้อสินค้าผ่านเว็บไซด์ หรือ แฟนเพจของเรา เราสามารถสื่อสารไปหาเค้าได้ทันทีที่ต้องการ และยังสามารถ เข้าข้อมูลลูกค้าปัจจุบันมาเป็นต้นแบบ ให้ AI ช่วยหาลูกค้าที่มีลักษณะเดียวกันกับลูกค้าที่เคยซื้อของจากร้านเราได้ สื่อสารไปหาเค้าได้โดยตรง ทั้งแม่นยำกว่าและประหยัดต้นทุนกว่า การไปโฆษณาด้วยป้านบิลบอร์ดหรือหนังสือนิตยสาร
การบันทึกบัญชีเพื่อให้รู้ตัวเลข SME ก็สามารถเข้าถึงระบบการขาย การตัดสต๊อก การลงบัญชีที่ต้นทุนไม่แพง ทำให้รู้ยอดขาย กำไรขาดทุน กระแสเงินสดได้ทันทีในปัจจุบัน ตัดสินใจทางธุรกิจได้ถูกต้อง ระบบ AI ของโปรแกรมบัญชีสามารถแสกนบิลลงบันทึกบัญชีได้อย่างรวดเร็ว
การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย บนฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ ก็สามารถเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสินค้าว่าควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอะไรกับใครที่มีแนวโน้มจะขายได้มากขึ้น
การใช้ AI Chatbot เป็นคนตอบคำถามแทน Call center ที่เราสามารถให้ AI ของไลน์เป็นผู้ช่วยตอบคำถามเมื่อลูกค้าถามว่าเปิดกี่โมง ai ดึงเวลาเปิดร้านที่เราตั้งไว้มาช่วยตอบให้ทันที
คิดว่า sme ไทยควรจะปรับตัวอย่างไรสำหรับการเข้ามามีบทบาทของ AI
สำคัญที่สุดและต้องทำเป็นอย่างแรก เปลี่ยนวิธีคิด ต้องคิดแบบดิจิตอล เชื่อมั่นใน ข้อมูล การเตรียมความพร้อมในเรื่องการใช้ระบบงานดิจิทัลก่อน ถ้าเรายังไม่ได้ใช้อะไรที่เป็นดิจิทัลเลย ปัญหาที่ตามมาคือเราจะไม่มีข้อมูล ในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อการตัดสินใจ เปลี่ยนการจัดเก็บข้อมูลเป็นกระดาษ มาเป็นรูปแบบดิจิตอล เปลี่ยนการตัดสินใจด้วยความรู้สึกมาเป็นการตัดสินใจด้วยข้อมูล
เมื่อเรามีข้อมูลแล้ว ใช้AIวิเคราะห์ หรือง่ายๆคือใช้ Excel เอาข้อมูลมาสร้างมุมมองใหม่ๆบางทีแค่เอาตัวเลขยอดขายแต่ละตัวมาเปลียนเป็นกราฟ จะเห็นทันทีว่าตัวไหนขึ้น ตัวไหนลง
ต่อมาคือเรื่องของการกำหนดเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายทางธุรกิจ อย่างการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน ทำงานให้เร็วขึ้น ตอบลูกค้าให้เร็วขึ้นภายใน 30 วินาที เราจึงมาเลือกว่าจะนำ AI มาช่วยส่วนไหน
ความคิดเห็น