เมื่อลูกสาวต้องพูดหาเสียง lower school speech day
ปีที่สองของโรงเรียนใหม่ ผิงผิงปรับตัวได้ เริ่มมีส่วนร่วมกับกิจกรรมโรงเรียนมากขึ้นจนปีนี้ กล้าลงสมัครเป็น Head girl เข้าใจง่ายๆก็เรียกว่าลงสมัครประธานนักเรียน ตอนผิงผิงมาบอกว่าปีนี้จะลงสมัคร พ่อแม่ก็มองหน้ากันเอาจริงรึ ไม่ได้อยู่ที่มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ดีใจที่ลูกกล้าเริ่มอยากทำสิ่งใหม่ๆ
.
การสมัครก็เริ่มจากกรอกใบสมัครเขียนเล่าว่า เป็นใคร ทำไมถึงอยากสมัคร สมัครแล้วอยากทำอะไร กับโรงเรียน ผ่านรอบใบสมัครเข้ามาได้ ไปสู่รอบสัมภาษณ์ ซึ่งเห็นว่ามีหลายคนพอสมควร
.
รอบสัมภาษณ์ เตรียมตัวเตรียมใจกันพอสมควรกับการเจอกรรมการที่ไม่ใช่ครูตัวเองที่เคยสอน ไม่รู้ว่าครูจะถามอะไร พ่อแม่ลองโยนคำถามเล่นให้ตอบซ้อมกันนิดหน่อยไม่อยากให้ลูกเครียดมากแต่ก็เพื่อให้อุ่นใจไม่ตื่นเต้นมาก
.
และเมื่อวันพุธก็ได้ทราบผลว่าผ่านรอบสัมภาษณ์เรียบร้อย มีเด็กผู้หญิง 3 ที่ผ่านเข้ารอบ ต้องเตรียมมาพูด Speech ต่อหน้านักเรียนและครูทุกคน ผ่านทางออนไลน์และให้เพื่อนๆนักเรียนโหวต
.
มีเวลาสองวัน ผิงผิงร่างเนื้อหาทำ google slide แล้วก็ซ้อมๆๆๆ ผมมีต้องไปทำงานสอนสองวันไม่มีเวลามาช่วยเลย มีขุ่นแม่ช่วยเตรียมตัวให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งตอนนำเสนอ ก็เป็นดังในภาพที่พี่จิงจิง แอบถ่ายการให้กำลังลูกในสไตล์แม่จูน 555
.
.
การหาเสียงของผิงผิงครั้งนี้ผิงผิงเลือกที่จะพูดในแนวทางที่ต่างจากคนอื่นผิงผิงบอกว่าที่จริงแล้ว แม้จะมีไอเดียเสนอปรับปรุงพัฒนาอะไรในโรงเรียนก็ต้องรอความพร้อมของโรงเรียนและรอได้เปิดไปเรียนอยู่ดี
.
เธอเลยเลือกเริ่มจากการพูด appoachable,open minded and eampathiec
.
ผมมาเห็นคลิปตอนพูดนี้ครั้งแรกจาก แม่เอม และน้าเจส่งมาให้ดู ต้องบอกตรงๆว่าแอบน้ำตาซึม และดีใจที่ลูกเลือกพูดอย่างนี้ แม้ไม่ได้รับเลือกเพราะคงเข้าใจยาก แต่แสดงว่าลูกเข้าใจอะไรบางอย่างที่ดีมากสำหรับเด็กๆที่ควรมีความรู้สึกอย่างนี้
.
จบการนำเสนอไปแล้วที่เหลือก็รอลุ้นว่าผลโหวตจะเป็นอย่างไร ได้เป็นหรือไม่ได้เป็นแต่ถึงตอนนี้ก็ชนะใจพ่อแม่ไปเรียบร้อยแล้ว
เบื้องหลังความพยามของลูก |
ไม่ว่าจะยังไงพ่อแม่ก็ยังจะคอยส่งแรงใจให้ลูกเสมอ
ความคิดเห็น