เรื่องเหล้า... เช้าวันอาทิตย์ Sunday talk
เรื่องที่จะเล่านี้ มันเก่ามากๆ
จนจำไม่ได้แม้กระทั่งยี่ห้อเหล้า
ชื่อเรื่อง ผู้เขียน และคนแปล
ตลอดจนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ
ก็ดูจะเลือนรางจางไปกับกาลเวลา
แต่ก็ยังพอจำเค้าโครงคร่าวๆ
เนื้อหาดีๆ แง่คิดโดนๆ
ของนิยายสั้นเรื่องนี้
ไว้เป็นบทเรียนสอนใจ
จะไม่พูดพร่ำให้รำคาญ
เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า
ชายหนุ่มวัยสามสิบคนหนึ่งชื่อแฟรงค์
เป็นคนซื่อ ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม
จิตใจดีงาม โอบอ้อมอารี
หลังเรียนจบ
แฟรงค์ก็ยึดอาชีพเป็นเซลส์ขายรถ
แม้จะไม่เฟื่องฟูมั่งคั่ง
แต่ก็สามารถดำรงชีพอย่างพอมีพอกินเรื่อยม
จนกระทั่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ไปทั่วสหรัฐอเมริกาในต้นทศวรรษ 1930
ชีวิตของแฟรงค์ก็พลิกผัน เขาตกงาน
มิหนำซ้ำยังมีหนี้สินเป็นเงินก้อนโต
แฟรงค์อับจน
สิ้นหนทางที่จะแก้ไขวิกฤติต่างๆ
ที่ถาโถมเข้าใส่เขา
เขาจึงร่ำสุรา ราดรดความทุกข์ไปวันๆ
กระทั่งทุกอย่างดูย่ำแย่เลวร้ายกว่าเดิม
ชายหนุ่มกลายเป็นไอ้ขี้เมา
ที่แทบไม่มีเงินหลงเหลือติดกระเป๋า
คืนวันหนึ่ง
หลังจากใช้เงินดอลลาร์สุดท้ายที่มีอยู่
หมดไปกับเหล้าเป๊กสุดท้าย
แฟรงค์ในสภาพเมาหยำเป
เดินโซเซท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ
และบรรยากาศอึมครึมมืดมิด
เขาเดินลัดเลาะ
ผ่านซอกตึกต่างๆ อย่างไร้จุดหมาย
จนกระทั่งมาพบกับบาร์เหล้าเล็กแห่งหนึ่ง
ตั้งอยู่ในมุมเปลี่ยวร้างไร้ผู้คนสัญจร
ภายในร้านว่างเปล่าปราศจากผู้คน
มีเพียงบาร์เทนเดอร์ชายชรา
ร่างผอมสูงแก้มตอบ ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
“แฟรงค์ ผมรอคุณอยู่นานแล้ว”
ชายชราเอ่ยทัก
“คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง”
แฟรงค์ย้อนถามด้วยความสงสัย
“ผมรู้อะไรเกี่ยวกับคุณอีกเยอะ
บางทีอาจจะรู้มากกว่าที่ตัวคุณรู้เสียด้วยซ้ำ
คุณกำลังตกงาน สิ้นเนื้อประดาตัว
และยอมแลกทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อเหล้าแก้วเดียว”
ชายชรากล่าวช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
แฟรงค์ฟังคำพูดของชายชราอย่างสงบนิ่ง
ทั้งแปลกใจและร่ำๆ ว่าจะสร่างเมา
“ฟังนะ แฟรงค์
ผมขอยื่นข้อเสนอบางอย่าง
ที่นี่มีเหล้า 13 แก้วให้ดื่มฟรีๆ
ถ้าหากคุณจะกล้าพอ
แต่ คุณต้องเสี่ยงดวงบ้างนิดหน่อย
เพราะหนึ่งในจำนวนนี้มียาพิษ
ถ้าคุณเป็นฝ่ายชนะพนันในการดื่ม
เอ้อ! ผมหมายถึงรอดตายนะ
คุณจะได้เงิน 1000 ดอลลาร์
และทุกๆ แก้วต่อไป
เงินเดิมพันก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว”
ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ปราศจากวี่แววว่าล้อเล่น
“นี่คุณเล่นตลกห่าเหวอะไรอยู่วะ”
แฟรงค์ตะคอกอย่างหงุดหงิด
“ผมไม่ได้ล้อเล่น”
ชายชรากล่าวพร้อมทั้งหยิบแบงค์ 1000 ดอลลาร์
วางลงบนเคาน์เตอร์
“แล้วคุณจะได้อะไรจากการเล่นเกมนี้กับผม”
ชายหนุ่มถามด้วยทีท่าน้ำเสียงอ่อนลง
“ขออนุญาตให้ผมได้แนะนำตัว
กับคุณอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า
ผมคือซาตาน
ถ้าคุณแพ้พนัน ดื่มเหล้าแก้วที่มียาพิษ
ชีวิตและวิญญาณของคุณ จะต้องเป็นของผม”
ซาตานพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือกวังเวง
แฟรงค์ลังเลไตร่ตรองว่า
เขาควรเชื่อถือคำพูดของชายชรา
หรือยึดถือมันเป็นเพียงเรื่องเหลวไหลไร้สาระ
“คุณไม่มีอะไรต้องสูญเสีย
มากไปกว่านี้อีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”
ซาตานพูดรุกคืบโน้มน้าว
ท้ายที่สุด
แฟรงค์จึงเลือกหยิบเหล้าแก้วหนึ่งบนเคาน์เตอร์
ด้วยมืออันสั่นเทา รวบรวมความกล้าดื่มมันเข้าไป
หลับตาเตรียมใจรอรับพิษร้ายที่จะแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกาย
จนชั่วครู่หนึ่งผ่านพ้น ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ
“ยินดีด้วยนะ แฟรงค์ เงินนี้เป็นของคุณ”
ชายชราหยิบแบงค์ 1000 ดอลลาร์ยื่นให้ชายหนุ่ม
“ยังมีเหล้าเหลืออยู่อีก 12 แก้ว
คุณมาพบผมได้ตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ต้องการเงิน”
แฟรงค์ใช้เงิน 1000 ดอลลาร์ไปกับการกินดื่ม
และจับจ่ายซื้อสิ่งฟุ่มเฟือยจนหนำใจ
และหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว
คืนวันรุ่งขึ้นเขาจึงหวนกลับมาพบชายชราอีกครั้ง
และชนะเดิมพันเงิน 2000 ดอลลาร์
คราวนี้ชายหนุ่มไม่ได้หมดเงินกับการเมามาย
แฟรงค์เริ่มคิดวางแผนสร้างเนื้อสร้างตัว
ทำธุรกิจของตนเอง
แต่ 2000 ดอลลาร์นั้นยังไม่เพียงพอต่อการลงทุน
สัปดาห์ต่อมาเขาจึงไปวัดดวงกับซาตาน
และเป็นฝ่ายชนะได้เงินมาอีก 4000 ดอลลาร์
ธุรกิจร้านขายรองเท้าของชายหนุ่มจึงเริ่มต้นขึ้น
และค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ มั่นคงตามลำดับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง
แฟรงค์เกิดไปพบและรู้จักสาวสวยชื่อพาเมลา
ทั้งคู่ต่างพึงพอใจในตัวอีกฝ่าย
ความรักผลิบานงอกงามอย่างรวดเร็ว
เพื่อที่จะหาเงินก้อนมาจับจ่ายใช้สอยในพิธีแต่งงาน
แฟรงค์จึงไปหาซาตานอีกครั้ง
ชายชรายังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“เพื่อนยาก คุณหายหน้าหายตาไปนาน
จนทีแรกผมแทบจะจำไม่ได้
ดูสะอาดสะอ้าน แต่งตัวดี
ตรงข้ามกับคืนแรกที่เราเจอกัน
ผมเดาว่าคุณคงมีชีวิตใกล้จะสุขสบายแล้วสินะ”
ชายชรายิ้มนิดๆ อย่างอ่อนโยน
ยกเว้นแววตาที่เคลือบแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์
แฟรงค์ไม่สนใจแม้กระทั่ง
จะเอ่ยทักทายหรือสนทนาด้วย
เขาปาดเหงื่อบนหน้าผาก
เลือกหยิบเหล้าแก้วหนึ่งขึ้นดื่ม
จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อพบว่าตนเองปลอดภัย
“8000 ดอลลาร์
สำหรับเหล้าแก้วที่สี่เป็นของคุณ
แต่ขอโทษนะครับ
ผมคิดว่ารวมกับเงินเก็บออมของคุณ
ผมเกรงว่ามันอาจจะไม่พอ”
ชายชราพูดพร้อมๆ กับ
ผายมือไปยังแก้วเหล้าที่เหลืออยู่
แฟรงค์ยืนลังเลไตร่ตรอง
ในที่สุดก็ตัดสินใจดื่มเหล้าแก้วที่ห้า
และได้เงินไปอีก 16000 ดอลลาร์
“ลาก่อน ผมกับคุณ
คงไม่มีความจำเป็นต้องพบกันอีกตลอดกาล”
แฟรงค์เอ่ยลาซาตาน
“นั่นยังไม่แน่นัก
แต่ถึงยังไง ผมก็จะรอคุณอยู่ตรงนี้”
ชายชรากล่าวทิ้งท้าย
แฟรงค์แต่งงานกับพาเมลา
หลายปีผ่านไป ธุรกิจของเขาเติบโตขึ้น
จากร้านเล็กๆ
กลายเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดปานกลาง
มีลูกสามคน ชายหนึ่ง หญิงสอง
ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์แบบ
แต่แล้วการเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งทางการค้า
ก็ทำให้เงินสดไม่เพียงพอหมุนเวียน
แฟรงค์กู้เงินจากธนาคาร
โดยเอาบ้านจำนองเป็นหลักประกัน
ทว่าแทนที่สถานการณ์จะกระเตื้อง
กลับทรุดหนักซวดเซกว่าเดิม
แฟรงค์ในวัยสี่สิบ
จึงต้องมาดื่มเหล้าแก้วที่หก
เพื่อเงิน 32000 ดอลลาร์
และเหล้าแก้วที่เจ็ด
เพื่อเงิน 64000 ดอลลาร์
เพื่อนำไปกอบกู้แก้ไขปัญหาทางธุรกิจของตน
จนกระทั่งมรสุมชีวิตคลี่คลายไปได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น
ชีวิตของแฟรงค์ก็ก้าวสู่เส้นทาง “ขาขึ้น”
กลายเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่
ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย
เขาเริ่มขยับขยายไปยังการลงทุนอื่นๆ
โดยเฉพาะการซื้อหุ้น ซึ่งทำกำไรมหาศาล
จนกระทั่งวันหนึ่ง หุ้นที่เขาถือไว้ราคาตกดิ่งฮวบ
จนต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ คือ
ดื่มเหล้าแก้วที่แปด
แฟรงค์ดื่มเหล้าแก้วที่เก้า
ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา
เพื่อนำเงินไปใช้ปรนเปรอชู้รัก
และต้องการปกปิดอำพราง
ไม่ให้กระทบต่อบัญชีรายได้จากธุรกิจ
ซึ่งพาเมลาผู้เป็นภรรยาจะสามารถตรวจสอบได้
จากนั้นก็ดื่มเหล้าแก้วที่สิบ
เพื่อเลิกรากับชู้รักที่เขาเบื่อหน่าย
และโดนเธอเรียกร้องขู่กรรโชกเงินก้อนโต
ดื่มเหล้าแก้วที่สิบเอ็ด
เพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจบ่อนพนัน
และยาเสพติด
ส่วนเหล้าแก้วที่สิบสอง
แฟรงค์ตัดสินใจดื่มมันด้วยเหตุผลสั้นๆ
คือ ความโลภ
แม้จะร่ำรวยจนทรัพย์สินที่มีอยู่
ใช้อย่างไรก็ไม่หมด
ทว่าเงินเดิมพันจำนวนสองล้านแปดพันดอลลาร์
ก็เย้ายวนกระทั่งแฟรงค์ในวัยห้าสิบ อดใจไว้ไม่ไหว
“เพื่อนรัก คราวนี้คุณหายไปนานมาก
จนผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณอีกซะแล้ว”
ชายชราในรูปลักษณ์เดิมๆ คงที่กล่าวทัก
“ผมมาดื่มครั้งสุดท้าย
ยังเหลือเหล้าอีกสองแก้วใช่มั้ย
อัตราความเสี่ยงสูงหน่อย
แต่เดิมพันนั้นโคตรคุ้มเลยวะ”
แฟรงค์หัวเราะอย่างก้าวร้าว
มองและชั่งน้ำหนักไปยังเหล้า
ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์
จากนั้นก็ตัดสินใจเลือกแก้วซ้ายมือ
เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างช้าๆ จนหมด
เฝ้ารอดูว่ามันจะก่อให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย
แต่แล้วทุกสิ่งก็ยังคงเป็นปกติ
“ขอเงินให้ผม และลาก่อนตลอดกาล”
แฟรงค์พูดด้วยความลิงโลดดีใจ
...
...
...
“อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณชนะ”
ชายชรายังคงสงบนิ่ง
“ผมบอกไว้แล้วว่าเหล้าแก้วหนึ่งมียาพิษ
แต่ดูเหมือนผมจะสะเพร่าไปนิดนึง
จึงลืมบอกคุณว่า
ยาพิษนั่น ไม่ได้ทำให้ตายทันที
แต่ออกฤทธิ์อย่างช้าๆ ทีละน้อย
คุณดื่มมันไปตั้งแต่แก้วที่หกแล้ว”
ซาตานอธิบายพร้อมๆ กับรอยยิ้มอันชั่วร้าย
“นับตั้งแต่นั้น
วิญญาณคุณก็เป็นของผม
คุณไม่ได้สังเกตเลยว่า
ตัวคุณเองเปลี่ยนไป
จากคนซื่อๆ จิตใจดีงาม
คุณกลายเป็นพ่อค้าที่เอารัดเอาเปรียบ
เป็นนายจ้างที่ขูดรีด
เป็นสามีที่ละเลยภรรยา
เป็นพ่อผู้ไม่รับผิดชอบใส่ใจต่อลูกๆ
คุณค่อยๆ ทรยศหักหลังเพื่อนร่วมงาน
บดขยี้คู่แข่งด้วยเล่ห์เหลี่ยมอำมหิต
มักมากในกาม ติดการพนัน
ละโมบไม่รู้จักพอ
ผมขอชื่นชม คุณเลวได้อย่างครบถ้วน
ชั่วสมบูรณ์แบบ ยิ่งกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะ”
แฟรงค์ตกตะลึง
สีหน้าซีดเผือด ร่างกายร้อนผ่าว
ปวดแสบเหมือนมีใครมาบิดลำไส้
หายใจกระหืดกระหอบติดขัด
“นับจากดื่มเหล้าแก้วที่หก
คุณก็กลายเป็นคนไร้วิญญาณ
ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อปรนเปรอตนเอง
แต่ผมเชื่อว่า
คุณคงรู้สึกบ้างเหมือนกันว่า
ชีวิตคุณว่างเปล่า
โหยหาไขว่คว้าต้องการบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา
และคุณคิดว่าเงินคือคำตอบ
ทว่ายิ่งได้มาเท่าไร ก็ยิ่งถมไม่เต็ม
นั่นเป็นเพราะว่า คุณไม่มีวิญญาณ
และเมื่อคุณปราศจากมัน
คุณก็ไม่มีวันรู้จักและเข้าใจได้อีกเลยว่า
ความรักเป็นอย่างไร
ใช่แล้ว! คุณกลายเป็นชีวิตที่ทำความรักหล่นหาย”
แฟรงค์ตายโดยไม่ทันได้ยิน
คำพูดประโยคท้ายๆ ของซาตาน
ชายชราหยิบเหล้าแก้วสุดท้ายชูขึ้น
“แก้วนี้ผมดื่มให้แก่ชีวิตที่น่าสมเพชของคุณ”
นิทานเรื่องนี้
สอนให้รู้ว่า...
เหล้า... ไม่ดีต่อสุขภาพ
ทำให้ขาดสติ และ
วิจารณญาณ
CR :line สมาคมธุรกิจแฟรนไชส์และไลเซ่น
ความคิดเห็น