ค้นหาแรงบันดาลใจ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่

หาแรงบันดาลใจกับไอเดียในการทำงานหาเงินเพิ่มจากงานประจำ

http://www.pantown.com/board.php?id=7268&area=1&name=board24&topic=71&action=view


จุดเริ่มต้นของกิจการส่วนตัว เริ่มแรกกันยังไงบ้างลองมาแบ่งปันประสบการณ์กันบ้างดีมั๊ยครับ
เห็น ทุกๆคนคุยกันแต่เรื่องทำงานบริษัทเป็นส่วนใหญ่ วันนี้อยากจะทราบถึงคนที่ทำกิจการส่วนตัว ที่เริ่มด้วยตัวเองกันบ้างว่า เราๆท่านๆผ่านอะไรมาบ้างจนมาถึงวันนี้ อะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต อะไรที่เป็นปัญหาเริ่มแรกที่หนักสุด และอะไรที่ทำให้เรากล้าที่จะสู้ในการทำธุรกิจส่วนตัว ผมอยากได้เป็นแนวทางบ้าง จะให้ชีวิตมารอโอกาศที่ผู้อื่นยื่นให้ไม่ได้อีกแล้ว เล่าให้ฟังบ้างนะครับ ผมอยากสู้เหมือนพวกคุณ

จากคุณ : Jewpatong - [ 22 มิ.ย. 49 18:40:32 >


--------------------------------------------------------------------------------










--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

สนุก สะใจ มัน เร้าใจ เหนื่อย เครียด กังวล ท้อแท้ สิ้นหวัง ผิดหวัง เริ่มใหม่ ลองใหม่ ครบทุกรสชาติ เเละรสชาติจะเเซปขึ้นถ้ากิจการนั้นต้องมีลูกน้อง หรือต้องกู้ยืมเงินมาลงทุน มันไม่ได้ดังใจไปเสียหมด

จากคุณ : รัตน์ (lanna_rice) - [ 22 มิ.ย. 49 21:06:43 >






ความคิดเห็นที่ 2

ต้องมีเงินสำรองเป็นทุนอย่างน้อย3เดือน เพราะทำกิจการใหม่3เดือนขึ้นไปถึงจะพอรู้ผลจะคืนทุนหรือมีแววจะขาดทุน









จากคุณ : เนเวอร์แลนด์ (เนเวอร์แลนด์) - [ 22 มิ.ย. 49 21:25:53 >






ความคิดเห็นที่ 3

จุด เริ่มของผม เรียนไม่จบปริญญา อยู่มาวันหนึ่งผมไปของานเค้าทำงานร้านอินเตอร์เน็ต เค้าไม่ให้ผมทำเค้าบอกว่า ผมทำได้มากกว่านี้ ผมก็มานั่งคิดว่า ผมต้องการอะไรเนี่ย ชีวิตผมมีแค่นี้ขี่สามล้อส่งของไปวัน ๆ เวลาทุกคนมีเท่ากัน ผมไม่อยากลำบากไปจนแก่ เป็นคนขี้เกียจมาก ตอนนั้นผมก็ 21 ทำไงผมจะได้มันมาล่ะ ผมไปขอพ่อซึ่งผมรู้คำตอบดีว่า ไม่ได้ เพราะเค้าไม่เคยให้อะไรง่ายๆ ตามความเคยชิน ผมก็ไปเก็บหนังสือไปนั่งขายหน้าบ้าน ได้เงินมาพันบาทขายหนังสือได้พันยากมากครับ เพราะว่า ผมขายลด 60% ตัดสินใจลา พ่อ บอกว่า "ขอไปฝึกวิชา ถ้าไม่รอดจะกลับมา" เออน่าจะไปนานแล้ว ตัดสินใจไปอยู่กับน้องที่กำลังเรียนอยู่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ก่อนจะไปสมัครเป็นพนักงานขายคอมนั่งรถ 3ต่อ เงินเดือน+คอมได้ 10k เงินไม่ใช้นอกจำเป็น เลิกงาน2ทุ่มก็ไปซ่อมคอมที่รับงานเค้าไว้กลับบ้านเที่ยงคืน วันหยุดวันเดียวก็ไปหาของตามร้านรับซื้อแล้วเอาไปขาย จับนั้นชนนี่แบบไม่หยุด
กลับมาบ้านคอมคอมพิวเตอร์ 10 เครื่องเปิดร้านทันที 13 เม.ย.44 เปิดวันแรก ดันมาทำถนนหน้าบ้าน ห้ามรถวิ่งเวรจริงๆ มีลูกค้ามาเล่น2คนเครียดสุดๆ เพราะตลอดเวลาที่หาเงินมาเปิด กินไม่เคยอิ่ม นอนไม่เต็มตื่น เวลาว่าง ๆ ก็ขายคอมแบบby orderตามโบชัว เวลาผ่านไป วันที่ 2 สิงหาคม 2548 ผมเอากำไรทั้งหมดที่ได้มาจากร้านเกมส์ 30เครื่องกับร้านอุปกรณ์คอมเล็ก ๆ มาเปิด มินิมาร์ทวันแรกแทบคลานเลยครับ เพราะซื้อของทุก ๆ 100 ผมจะแจกของใช้ทุน 10 บาทเป็นของแถม ปัจจุบันผมประสบปัญหา สินค้าหมดอายุ เพราะว่าเดาทางลูกค้าไม่ถูก ไม่มีก็ไม่ได้ สต๊อคมากเกินไปเพราะโลภ สินค้าขาดบ้าง ก็พยายามแก้ไปเรื่อย ๆ ครับ ร้านเดิมทั้งสองร้าน ผมตัดสินใจขาย หลังจากจ้างคนดูมาเป็นเวลา 1 ปี เพราะคอมมันหมดอายุ
ร้านนี้มีแรงบันดาลใจมากจาก ตอนปี 40 41 ห้างทุกชั้นเงียบหมดเลย ยกเว้น ซุปเปอร์มาเก็ตชื่อว่า top

ทุกคนมีเวลาเท่ากัน คนที่นอนน้อยกว่า ย่อมทำอะไรกับที่เวลาที่ตื่นได้มากกว่า
แต่ว่า ไม่มีความสุขเลย ได้เงินมาให้เมียหมด ไม่รู้จะใช้จะใช้อะไร หยิบเหรียญมาเห็นแต่เหงื่อ กับน้ำตาติดเหรียญ
ผมไม่มีใบผ่านทางที่เรียกว่า ปริญญา ทำให้ผมต้องปืนเขา เผื่อให้ทันหรือเร็วกว่า คนที่มีใบผ่านทาง
คนที่มีแล้วอย่าอยู่เฉย ๆ นะครับ คุณมีเครื่องหัวคิดและความรู้ที่มากกว่าผม โปรดนำมันเป็นแรงขับเคลื่อน ไปสู้จุดหมายของท่านนะครับ โชคดีสำหรับก้าวแรกนะครับ
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 49 23:23:37

แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 49 23:15:56

จากคุณ : famer (famer) - [ 22 มิ.ย. 49 22:53:16 >







ความคิดเห็นที่ 4

สุดยอดเลยค่ะคุณ famer ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปน่ะค่ะ นายแน่มาก

จากคุณ : Laulen - [ 23 มิ.ย. 49 02:41:33 >






ความคิดเห็นที่ 5

สู้ต่อไปครับ คุณ famer (famer) เป็นกำลังใจให้อีกเสียงครับ

จากคุณ : MASTERSMITH - [ 23 มิ.ย. 49 07:09:59 >






ความคิดเห็นที่ 6

พออ่านหัวข้อกระทู้ของคุณแล้วก็พาลนึกถึงอดีตขอ
โดย: [0 3] ( IP )

ความคิดเห็นที่ 1
งตัวเองขึ้นมาทันที...

จำ ได้ว่าตอนอยู่ ม.ต้น เริ่มธุรกิจแรกของชีวิตคือ ธุรกิจรูปสติ๊กเกอร์ ที่บูมมาก ๆ แต่ผมไม่ได้ทำเป็นตู้สติ๊กเกอร์นะ ทำที่บ้านแบบเอารูปถ่ายมาสแกน แล้วเอาไปใส่กรอบในโประแกรมสติ๊กเกอร์ ทำไปได้ปีนึงได้ก็หยุด เพราะเริ่มเป็นขาลง ก็ถือว่าได้มาพอสมควร ได้เครื่องแสกน เครื่องปริ้น เงินสดอีก 1 หมื่น เห็นจะได้

หลังจาก นั้นก็พยายามคิด ๆ เรื่อยมาว่าจะทำธุรกิจอะไรดี แต่ก็น่าแปลกถ้าตั้งใจคิดมันจะคิดไม่ออก ไม่รู้ทำไม แต่พอไม่คิดมันก็ดันเกิดไอเดีย แต่ธุรกิจที่ 2 ของผมไม่ค่อยอยากจะสะอาดเท่าไหร่ นั่นก็คือ ไร้แผ่นซีดีเพลงขาย ตอนนั้นบูมมาก แต่ก็ทำได้ปีกว่า ๆ เท่านั้นเพราะเริ่มจะเข้ามหาลัยแล้วไม่ค่อยมีเวลา และธุรกินี้เหนื่อยมาก ๆ ทำคนเดียวเพลงมีเป็นพัน ๆ เพลง และต้องตามเพลงตลอดทุกอาทิตย์ เลิกมาก็ได้ CD Writer มา

-------------------------

ธุรกิจต่อมามาทำใน ช่วงเข้ามหาลัยไปแล้ว ธุรกิจนี้ก็คือขายโทรศัพท์มือถือที่นำเข้ามาถูก ๆ ตอนนั้นเป็นช่วงจอขาว-ดำรุ่นสุดท้ายมั้งที่ รุ่นผีเสื้อ 8250 กับ 8310 บูมมาก ๆ อันนี้ตอนแรกโดนคนที่เอาเครื่องมาขายหลอกซะเละ เพราะเราดูเครื่องไม่เป็น โดนย้อมแมว ที่จริงเป็นมือ 2 แต่บอกเราว่ามือ 1 เจ็บใจมากเงินก็เสียไป แต่ไม่ยอม ก็เลยศึกษาว่าเขาดูอีมี่ยังไง ดูเครื่องยังไงว่ามือ 1 จริง ๆ จนรู้แจ้ง (ตอนนี้ลืมหมดแล้ว) ธุรกิจนี้ได้เงินเร็วมาก ซื้อมาขายไป ซื้อที 20-30 เครื่อง เอาไปขานร้านโทรศัพท์ ได้น้อยกว่าขายปลีก แต่ปล่อยได้เร็วกว่า ทำได้แค่ 6 เดือน พอมีจอสีออกมาก็เลิกทำไป แต่มาเยอะพอสมควรประมาณ 5 หมื่น

---------------------------------

ธุรกิจ อีกอันนี่มาจากความอยากอย่างเดียวเลย เชื่อว่าใครหลายคนในนี้ก็อยากทำ คือธุรกิจร้านเกมส์ เวลาที่เราอยากอะไรมาก ๆ แล้ว เรามักจะคิดด้านเดียวเสมอ และส่วนใหญ่จะคิดแต่ด้านดี ๆ เหมือนความอยากมันมาบังสติและความรอบคอบเราไว้ (ธุรกิจที่คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า" เปิดร้านเกมส์นี้ใช้ทุนที่สะสมมาจากธุรกิจก่อน ๆ และเงินเก็บ ลงไปกับมัน ทำได้ไม่ถึงปีก็ต้องปิดเพราะคู่แข่งมีมากขึ้น ทุนหนากว่าเรา ตัดราคา โชคดีที่เซ้งร้านได้ กำไรจากการเซ้งร้านได้มาเกือบแสน อันนี้ยอมรับว่าเป็นโชคจริง ๆ อีกใจก็สงสารคนที่มาเซ้งต่อเรา ก็อย่างที่บอกว่าธุรกิจนี้ "คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า" ลองทำแล้วก็จะรู้เอง

-----------------------------------

ธุรกิจ ของตัวเองในปัจจุบัน อันนี้ไม่ได้ตั้งใจคิดจะทำเลย แต่ไปอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเจอหัวข้อ "ยอดการใช้...ของคนไทยพุ่ง" ก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติม และเห็นว่าน่าสนใจก็เลยลงทุนทำ ขายทางอินเตอร์เนต ก็สบายตัวดี เพราะต้องทำงานประจำไปด้วย ขายของทางเนตไม่ต้องรบกวนงานประจำ โชคดีไป ตอนนี้ธุรกิจตัวนี้ก็ดำเนินอยู่ แต่ขอไม่บอกละกันนะครับว่าสินค้าคืออะไร เพราะตัวเองทำมา 8 เดือนก็ยังเขิน ๆ อยู่เหมือนกันกับสินค้านี้ แต่ธุรกิจนี้ก็ไปได้ด้วยดีครับ

พิมพ์ไปพิมพ์มา ดูยาวจังเลย ทำกระจิกกระจ๊อกมาตลอด แต่ก็ได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างว่า

"สิ่งที่เราคิดจะทำ เวลาทำมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราคิด"
"เงินแต่ละบาท มันหายากจริง ๆ"
"ถ้าตั้งใจคิดจะทำธุรกิจอะไร มักจะคิดไม่ค่อยออก แต่พอไม่ตั้งใจมันจะปิ๊งขึ้นมาเอง"
"เริ่มทำมันไม่ยาก แต่จะให้มันคงอยู่น่ะยากกว่า"
แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 49 09:07:27

แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 49 09:05:42

จากคุณ : GTO@Dummy - [ 23 มิ.ย. 49 09:02:15 >







ความคิดเห็นที่ 7

ไม่มีอะไรมากครับ มักจะมีบริษัทขอให้ไปเป็นที่ปรึกษาด้านไอที
และ Business Process Review แต่งานประจำมันเยอะ
เลยไปยืมตัวน้องๆ ป โท ที่เพิ่งจบมา 5-6 คนมาช่วยงาน ทำไปทำมา
เลยตั้งบริษัทมันซะเลย แบ่งหุ้นให้น้องๆเท่าๆกัน ง่ายๆแค่นี้เองครับ

จากคุณ : ดาวสุริยะ - [ 23 มิ.ย. 49 09:40:34 >






ความคิดเห็นที่ 8

"หยิบเหรียญมาเห็นแต่เหงื่อ กับน้ำตาติดเหรียญ"
เป็นคำประทับใจประจำวัน จะเก็บไว้บอกตัวเอง

จากคุณ : thaisub - [ 23 มิ.ย. 49 11:32:04 >






ความคิดเห็นที่ 9

so cool!!! เจ๋งมากครับคุณ famer ขอบคุณข้อคิดดีๆที่ช่วยเตือนสติผมด้วย

จากคุณ : robopon - [ 23 มิ.ย. 49 13:19:20 A:124.121.30.195 X: >






ความคิดเห็นที่ 10

อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจให้กับตัวเองอย่างมาก รู้สึกว่าคนเราต้องสู้ และอดทน จะพยายามอดทน และสู้ต่อไปค่ะ

จากคุณ : beautiful_sky - [ 23 มิ.ย. 49 14:38:47 >






ความคิดเห็นที่ 11

โดย: [0 3] ( IP )

ความคิดเห็นที่ 2
โดนไล่ออกจากที่ทำงานเก่าแบบไร้เหตุผล

ประมาณว่าเป็นสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง
ที่คิดค่าเทอมแพงแสนแพง
แต่กดค่าแรงเงินเดือน

ก้อหลายคนถูกไล่ออก หรือพูดให้สวยๆ คือลาออก
(ไม่ใช่เราคนเดียว และไม่ใช่รายแรก)
หลายๆ คนก้อเจออย่างนี้
ด้วยเหตุผลที่แสนจะกิ๊บเก๋ ว่า
คุณทำให้มหาลัยเสียชื่อ

เราก้องงเป็นไก่ตาแตก
ถามว่าแล้วทำไมไม่ตั้งคณะกรรมการ
และสืบข้อเท็จจริง
ถ้าผลออกมาเป็นยังไง เราก้อขอให้ตามมติ
ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก้อตาม
เรายินดีทำตามมติของคณะกรรมการ

ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก้อมาให้เราออก
พอไม่ยอมลาออก
เอาดื้อๆ เลย ส่งจดหมายลงไปรษณีย์มาที่บ้านเลย
ประมาณว่าไล่ออก
เจ็บที่สุด คือ ในจดหมายไม่ระบุเหตุผลที่ให้ออก
(เพราะไม่มีสาเหตุ และไม่กล้าเขียนลงไปเป็นลายลักษณ์อักษร)
และไม่มีค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น

จึงเป็นที่มาของการเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว

ในความคิดส่วนตัว
จะไล่ออก ก้อน่าจะทำให้โปร่งใสกว่านี้
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหน้าเป็นการส่วนตัว
แล้วพอมีโอกาสก้อหาเรื่องไล่ออก

แต่เขาก้อไม่กล้าตั้งคณะกรรมการ
หรือระบุสาเหตุเป็นลายลักษณ์อักษร
น่าขันสิ้นดี
กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ อิอิอิ

จากคุณ : Interlaken - [ 23 มิ.ย. 49 22:14:01 A:61.47.101.151 X: >






ความคิดเห็นที่ 12

อยาก ทำอะไรง่าย ๆ แบบคุณสุริยะจัง พ่อแม่ น้องและเมียผมคงจะได้สบาย คงจะมีความสุขด้วย มีวันหยุด ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกัน ผมเกิดมายังไม่เคยได้ไปเที่ยวกับครอบครัวผมสักครั้ง

ถ้า จุดเริ่มต้น ของคุณเริ่มจากคำว่า ไม่มี

ถ้า คุณอยากได้คุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา ตอนเด็ก ๆ ผมอยากได้ว่าวตัวใหญ่สักตัวแต่มันแพง ผมไปเดินดูว่าวที่ร้านแล้วจำมาทำเอง ต้องไปตัดไม้ไผ่ แล้วมาเหลา หากระดาษหนังสือพิมพ์แปะ ทำไป5ตัวกว่าจะขึ้น ผมเรียกมันว่าว่าวตับแตก ผมอยากได้ เครื่องเล่นเกมส์ fr202 ผมก็ไปเก็บของเก่า พวกตาปู เศษเหล็ก ตามงานก่อสร้าง ขายเรียงเบอร์ ใจมันคอยจะไปดูของเล่นชิ้นอื่นก่อนเพราะมันสามารถซื้อได้เลยในเวลานั้น

ธุรกิจ ก็เหมือนเราอยากได้ของอะไรซักอย่าง ที่เราไม่เคยมี แต่มันต้องอดทนและใช้เวลามากกว่า

จากคุณ : famer (famer) - [ 23 มิ.ย. 49 23:08:27 >






ความคิดเห็นที่ 13

ช่ายค่ะอย่างบนคน หยิบโน้นจับนี่ แล้วก้อสำเร็จง่ายดาย โอกาส มาถึงคนบางคนเท่านั้น
ของเรา
เริ่ม ต้นด้วยการยืมเงินแม่มาลงทุน 2 หมื่น เมื่อสักปี 30 ทำธุรกิจ จำหน่าย เทป เฟื่องมาก ๆ เพราะยังไม่มี เทปผี ซีดีเถื่อน ขายตั้งแต่ร้านเล็ก ๆ จนวันนึงมีรายรับ 2หมื่นกว่า บาท ขยายกิจการ พร้อม ๆ กันทีเดียว 6 สาขา กะโตเลยว่างั้นเหอะ ตอนปี 40 โดนหุ้นส่วน โลภ โกงเอาร้านไป เสีย 5 สาขาอ่ะ อยากได้ให้ไป
เราเหลือเพียงร้านที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เพียงที่เดียวและเป็นร้านที่มียอดน้อยที่สุด กัดฟันลุยต่อไปด้วยความพากเพียร เปิดร้าน ตีห้า ปิด 3 ทุ่ม ทุกวัน หาสินค้ามาเพิ่มเป็นหนังสือ กิจการอยู่ได้ดี มาเรื่อย ๆ จนปี 44 โดนไล่ที่ กว่าที่จะลงตัวกินเวลาเกือบ 2 ปี
พอมาตั้งหลักได้ใหม่ ทำมาได้ อีก 4 ปีเจอทำถนน ซะงั้น
ตอนนี้ ในทำเลร้านเพียงทีเดียว เราทำธุรกิจหลาย ๆ อย่าง ในเวลาเดียว สินค้าอย่างแรก ขายไม่ดี ยังมี อีกสองสามอย่างที่ขายดี
ตอน นี้เริ่มลงตัวแล้ว เหลือแต่ต้องใช้เวลาที่มีเริ่มเก็บ เงินสะสม รอรับ เรื่องที่จะเกิดขึ้นอีก ตัวเราเอง พยายามเรียนรู้เทคโนโลยีทุกอย่าง ส่วนธุรกิจ เทป ซีดี ตอนนี้ ก้อลดทุก ๆ อย่าง ลงแล้ว เพราะสู้ เถื่อนไม่ไหว จนใจจริง ๆ

จากคุณ : น้องชวน(ป๋วย) - [ 24 มิ.ย. 49 08:51:09 >

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลดหนังสือมานี มานะ ไฟล์ PDF ฟรี ขอบคุณ (ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net)

รวมมุกขำขำ มุกตลก มุกงานเลี้ยง มุกพิธีกร

K-SME Analysis ธุรกิจชานมไข่มุก จากไต้หวัน