พัฒนาหัวหน้างานเป็นผู้ช่วย CEO


องค์กรธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพและทักษะสูง การสรรหาและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพจึงเป็นความท้าทายสำคัญ แม้องค์กรจะมีแบรนด์และชื่อเสียงที่ดีในการดึงดูดบุคลากรเข้ามา แต่หากไม่สามารถธำรงรักษาพนักงานเหล่านั้นไว้ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน


หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกจากองค์กรนั้นมักมาจากหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา ผู้คนมักจะเลือกที่จะทำงานกับองค์กรเนื่องจากแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดี แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจอยู่หรือออกไปนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพและวิธีการบริหารงานของหัวหน้า ดังนั้น การพัฒนาทักษะและศักยภาพของหัวหน้างานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้พวกเขาสามารถถ่ายทอดกลยุทธ์และวัฒนธรรมองค์กรที่ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เช่นที่ Peter Drucker กูรูด้านการจัดการชื่อดังได้กล่าวไว้ว่า "Culture eats Strategy for breakfast" ซึ่งหมายความว่า "วัฒนธรรมองค์กรกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แม้องค์กรจะมีกลยุทธ์ที่ดีเพียงใด หากไม่มีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและสนับสนุน กลยุทธ์นั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น บทบาทของหัวหน้างานในการสร้างและปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้แก่พนักงานจึงมีความสำคัญยิ่ง


5 เหตุผลหลักที่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกเพราะหัวหน้างาน ได้แก่


1. การขาดการสื่อสารที่ดีและการให้ข้อมูลป้อนกลับที่เป็นประโยชน์

2. การบริหารงานที่ขาดความยุติธรรมและมีอคติ

3. การไม่สนับสนุนโอกาสในการเติบโตและพัฒนาตนเอง

4. การขาดทักษะในการบริหารความขัดแย้งและจัดการกับปัญหา

5. การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมและขาดจริยธรรม


ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและทักษะการบริหารงานของหัวหน้างาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี รักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ และส่งเสริมความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว

นอกจากบทบาทสำคัญของหัวหน้างานในการสร้างและปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแล้ว หัวหน้างานยังมีหน้าที่สำคัญในฐานะผู้ช่วยของซีอีโอในการนำกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กรไปปฏิบัติ


ซีอีโอเป็นผู้นำระดับสูงสุดที่กำหนดทิศทางและวิสัยทัศน์ขององค์กร แต่การบรรลุเป้าหมายนั้นต้องอาศัยทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการดำเนินการ หัวหน้างานจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ช่วยของซีอีโอในการถ่ายทอดกลยุทธ์และแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ


การพัฒนาหัวหน้างานให้เป็นผู้ช่วยซีอีโอที่ดีจึงมีความจำเป็น เพื่อให้พวกเขา:


1. เข้าใจวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กรอย่างถ่องแท้ รวมถึงสามารถถ่ายทอดและสื่อสารให้พนักงานในทีมงานเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน


2. มีทักษะการบริหารจัดการและภาวะผู้นำที่เหมาะสม เพื่อนำพาทีมงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ


3. มีความคิดริเริ่มและความคล่องตัวในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง สามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


4. เป็นผู้นำที่มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน สร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาและความสำเร็จขององค์กร


5. มีทักษะในการสื่อสารและประสานงานที่ดี สามารถสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีทั้งภายในและภายนอกทีมงาน


การลงทุนในการพัฒนาหัวหน้างานจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร เพราะจะช่วยให้มีทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว



เทคนิคการการถอดและสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เหมาะสมกับบริษัทของเราเป็นหน้าที่สำคัญของหัวหน้างาน โดยมีขั้นตอนและแนวทางดังนี้:


1. ทำความเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรในปัจจุบัน

- สำรวจและวิเคราะห์ค่านิยม ทัศนคติ พฤติกรรม ที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กรในปัจจุบัน

- ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของวัฒนธรรมองค์กรปัจจุบัน


2. กำหนดวัฒนธรรมองค์กรที่พึงประสงค์

- ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ขององค์กร 

- กำหนดค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมที่สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร

- ค้นหาและเรียนรู้จากองค์กรต้นแบบที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี


3. วางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

- กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จอย่างชัดเจน

- ออกแบบกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร

- พัฒนาระบบการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ


4. เป็นแบบอย่างที่ดีและนำร่องการเปลี่ยนแปลง

- หัวหน้างานต้องเป็นผู้นำในการแสดงออกถึงค่านิยมและพฤติกรรมที่พึงประสงค์

- สนับสนุนและให้รางวัลแก่พนักงานที่แสดงพฤติกรรมสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร

- จัดการกับพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมองค์กรอย่างเด็ดขาด


5. ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

- สำรวจและรวบรวมข้อมูลป้อนกลับจากพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

- วิเคราะห์และประเมินผลความก้าวหน้าในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

- ปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป


โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริษัทของเราสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีความเป็นมืออาชีพ ส่งเสริมนวัตกรรม และการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน


การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็นกระบวนการที่ท้าทายและต้องใช้เวลา แต่หัวหน้างานจะเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนและทำให้กระบวนการนี้ประสบความสำเร็จ



ตัวอย่างการสร้างผู้นำที่จะมาสร้างวัฒนธรรมองค์กร และ บริหารงานจนเป็นเหมือนผู้ช่วย CEO แบบ  ธนาคารกสิกรไทย 

เริ่มจากการรวมผู้บริหาร หัวหน้างานที่ได้รับการยอมรับ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มาถอดบทเรียนระดมสมองเพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นแกนกลางในการคัดคนพัฒนาคนให้มีวัฒนธรรมองค์กรเดียวกัน

วัฒนธรรมองค์กร: ธนาคารกสิกรไทย

ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความเป็นมืออาชีพ การริเริ่มสิ่งใหม่ และการทำงานเป็นทีมของทั้งองค์กร

เมื่อมีวัฒนธรรมองค์กรแล้ว มีการสร้างคู่มือการเป็นหัวหน้างาน เป็นแนวทางปฎิบัติของ

1. ใส่ใจให้โอกาส

- สร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างและยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย

- ให้โอกาสพนักงานได้แสดงศักยภาพและพัฒนาตนเอง

- สนับสนุนการฝึกอบรมและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง


2. ตั้งเป้าหมายสอดคล้องเหมาะสม  

- กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายแต่สามารถบรรลุได้ โดยคำนึงถึงศักยภาพและความสามารถของพนักงาน

- ทำให้เป้าหมายสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กร

- ติดตามและปรับเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์


3. แนะนำตรงประเด็น

- ให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะที่ชัดเจน ตรงประเด็น และเป็นประโยชน์

- หลีกเลี่ยงการวิจารณ์ในทางลบ แต่เน้นการให้ข้อมูลเชิงสร้างสรรค์

- รับฟังและให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของพนักงาน


4. มีเหตุผล

- ใช้หลักการและข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ

- อธิบายเหตุผลและที่มาของการตัดสินใจให้พนักงานเข้าใจ

- ยอมรับข้อผิดพลาดและปรับปรุงแนวทางการทำงานอย่างสร้างสรรค์


5. ให้รางวัลอย่างเหมาะสม

- จัดให้มีระบบการให้รางวัลที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับผลงาน

- ยกย่องและให้รางวัลแก่พนักงานที่มีผลงานดีเด่น

- สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้พนักงานทำงานอย่างเต็มที่


6. ยกย่องชมเชยตามโอกาส

- ชื่นชมและให้กำลังใจพนักงานเมื่อมีผลงานดี

- สร้างบรรยากาศการทำงานที่มีความผูกพันและกระตุ้นพลังใจ

- ส่งเสริมการยอมรับและชื่นชมระหว่างเพื่อนร่วมงาน


7. สร้างการยอมรับการเปลี่ยนแปลง

- ทำความเข้าใจและสื่อสารถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง

- ให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนแปลง

- สนับสนุนและช่วยเหลือพนักงานในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง


8. ติดตามผลงานสม่ำเสมอ

- กำหนดการประเมินผลงานอย่างชัดเจนและเป็นระบบ

- ให้ข้อมูลป้อนกลับและข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ

- ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที


9. ส่งเสริมให้แสดงและรับฟังความคิดเห็น ประสานสร้างสัมพันธ์

- สร้างช่องทางให้พนักงานแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

- รับฟังความคิดเห็นของพนักงานอย่างจริงใจและเปิดกว้าง

- ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีและการทำงานเป็นทีมภายในหน่วยงาน


10. ช่วยแก้ปัญหาพึ่งพาได้

- แสดงออกถึงการเป็นผู้นำที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและแนะนำ

- สร้างบรรยากาศที่พนักงานสามารถแบ่งปันและปรึกษาปัญหาได้

- ใช้ทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจที่เหมาะสมกับสถานการณ์


11. สร้างการยอมรับไว้วางใจ  

- ปฏิบัติตนอย่างซื่อสัตย์และมีจริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดี

- รักษาความลับและความน่าเชื่อถือในการทำงาน

- ยุติธรรม ปราศจากอคติ และปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม


การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี มีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ



ติดตามความรู้ดีเพื่อธุรกิจ SME ได้ทุกช่องทางของ
อาจารย์โอ วีระ เจียรนัยพานิชย์

ไม่พลาดข่าวสารการตลาดและความรู้เพื่อ SME เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลดหนังสือมานี มานะ ไฟล์ PDF ฟรี ขอบคุณ (ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net)

รวมมุกขำขำ มุกตลก มุกงานเลี้ยง มุกพิธีกร

รับชำระเงินด้วย อาลีเพย์ (Alipay) และ วีแชทเพย์ (WeChat Pay) ทำยังไง