บทความ

ขอรัฐบาลใหม่เอาใจใส่ AEC

ขอรัฐบาลใหม่เอาใจใส่ AEC ศุกร์ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เชิญ ร.ต.อ. ดร. นิติภูมิ นวรัตน์ พูด ‘สิทธิเด็กไทยกับประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2558’ ให้ผู้บริหารโรงเรียน ครู นักเรียน และศึกษานิเทศก์ทั่วประเทศ 350 คน เวลา 10.00-12.00 น. เสาร์พรุ่งนี้ ที่ชลพฤกษ์รีสอร์ท จ.นครนายก กลับมาเยี่ยมเมืองไทยครั้งนี้ ผมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคุณนิติภูมิออกไปโน่นมานี่เกือบทุกวัน อย่างวันนี้ก็ตามไปฟังถึง 2 แห่ง ตอนเช้าที่พัทยา เรื่องผลกระทบ AEC ต่อเศรษฐกิจและการค้าของไทย ผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นเจ้าของโรงงานในจังหวัดระยอง ชลบุรี และสมุทรปราการ พอมาถึงตอนบ่าย ผมก็ไปตามไปฟังท่านพูดให้นายกเทศมนตรีและผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่น 200 คน ที่บางแสน คำถามจากผู้มาฟังคำบรรยายทั้ง 2 งาน ทำให้ผมรู้เลยครับว่า ความกระหายใคร่รู้ของสังคมไทยเกี่ยวกับเรื่อง AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้นมีสูงมาก คำถามยอดฮิตก็คือ พวกผมนักอุตสาหกรรมจะต้องเตรียมตัวยังไง? นายกเทศมนตรีบางท่านกลัวถึงขนาดขอให้รัฐบาลใหม่หยุดเรื่อง AEC เอาไว้ก่อน ซึ่งผมขอเรียนย้ำซ้ำอีกครั้งว่า ถึงตอนนี

99 วิธี บอกว่าเรารักกัน

รูปภาพ
1. ให้เกียรติและเคารพ ความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย 2. เป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้าง ให้อีกฝ่ายในยามท้อแท้ 3. ใช้เวลาว่างช่วงเย็นวันหยุดด้วยการนั่งดูหนังดูทีวีรายการโปรด 4. วิ่งไล่จักกะจี้หรือแกล้งกัน 5. ซื้อปลาทองให้อีกฝ่ายเลี้ยง 6. โบกรถเที่ยวกันสองคน 7. สอนให้อีกฝ่ายรู้จักเล่นกีฬาที่ตนเองถนัด 8. ช่วยอีกฝ่ายทำการบ้าน 9. วาดรูปเหมือนของอีกฝ่ายเก็บไว้ 10. แอบหย่อนโน้ตที่เขียนว่า .. I Love You ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าสตางค์ของอีกฝ่าย 11. โอบกอดกันและกันให้ "แน่น และ นาน" 12. ลูบผม เล่นผม หวีผมของอีกฝ่าย 13. จูบกันและกัน (แบบไหนก็ได้) 14. ไป...ขี่จักรยานเที่ยวแถวบ้านด้วยกัน 15. บอกให้ทุกคนรู้ว่า "เราสองคนกำลังมีความรัก" 16. เอ่ยคำชม อย่างจริงใจ ... ไม่เสแสร้ง 17. พูดคุยอย่างเปิดอก กับอีกฝ่ายทั้งเรื่องสุข ทุกข์ 18. ไปเชียร์อีกฝ่ายแข่งกีฬา อย่างสุดใจขาดดิ้น (กล้าๆหน่อยเขียนป้ายเชียร์ให้รู้กันไปเลยทั่วสนาม เย้!) 19. สักชื่อคนรักแบบชั่วคราวไว้ตรงอวัยวะส่วนไหนก็ได้ 20. วันที่คนรักป่วน ทำโจ๊กชามใหญ่ พร้อมกับขนมปังกรอบและการ์ดน่ารักที่มีความว่า "ขอให้หา

งานสัมมนา AEC เชียงราย4จังหวัดภาคเหนือ

เชียงราย - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ร่วมกับหอฯ 4 จว.ล้านนาตะวันออก เปิดเวทีติวเข้มผู้ประกอบการรับ AEC พร้อมระดมนักวิชาการ-ตัวแทนเอ็กซิมแบงก์ ขึ้นเวทีบรรยายยาว 90 ชม. ก่อนขนเถ้าแก่ที่ผ่านทดสอบร่วมเปิดบูทที่หลวงพระบาง-อุดมไชย 2 แขวงลาวที่เชื่อมเวียดนามได้ วันนี้ (2 ส.ค.54) ที่โรงแรมดุสิตไอแลนด์รีสอร์ท เชียงราย กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่และน่าน ร่วมกับหอการค้า 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้จัดเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ พบทูตพาณิชย์รุกตลาดประชาคมอาเซียน หรือ ASEAN Economic Community (AEC) และจีน มีนายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และทูตพาณิชย์ประจำประเทศต่างในเอเชียใต้และภาคนักธุรกิจ นิสิตนักศึกษาเข้าร่วมเสวนาประมาณ 300 คน ในการเสวนาได้มีการอภิปรายถึงความพร้อมในการเข้าสู่ตลาด AEC และตลาดจีน เพื่อส่งเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องสามารถทำการค้าและทราบกฎกติกาในการดำเนินธุรกิจการลงทุนระหว่างประเทศ เพราะจะมีการเปิดการค้าเสรี AEC ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป ตลอดจนข้อดีเรื่องการยกเลิกการห้ามสินค้านำเข้า 15 รายการของประเทศพม่า และการค้า

เคล็ดลับการขอสินเชื่อ ให้โดนใจแบงค์

วิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ หลายท่านรู้สึกได้ว่ามีความรุนแรงมากกว่าวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ทั้งๆ ที่ตัวเลขชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวบอกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนมาก เช่น ปี 2540 มี NPL สูงถึงกว่า 40% มีเงินกู้ต่างประเทศสูงกว่าแสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่มีเงินทุนสำรองเพียง 3-4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น และ GDP ใน ปี 2541 ติดลบถึง 10.5% แต่ในปี 2552 ตัวเลขทุกตัวดีกว่ามาก มีเงินทุนสำรองกว่าแสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้นสาเหตุที่หลายท่านรู้สึกเช่นนั้น เพราะธุรกิจของบางท่านได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ธุรกิจส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากคู่ค้าต่างประเทศไม่สั่งซื้อสินค้า, ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบิน และการก่อความไม่สงบในช่วงวันสงกรานต์ ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการขายรถยนต์ลดลงและการขาดสภาพคล่อง เป็นต้น ก็เลยทำให้ธุรกิจมียอดขายที่ลดลงและขาดสภาพคล่อง พอไปขอสินเชื่อจากธนาคาร ธนาคารก็ระมัดระวังในการให้สินเชื่อ เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยไม่ดีก็จะทำให้ NPL เพิ่มขึ้นพอสถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากเกินไปจึงกลายเป็นปัญหาตามมา สถาบันการเงินก็เลยกลายเป็นจำเลยของสังค

วิธีเติมโชคดีให้ชีวิต โดย:กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ท่านผู้อ่านเชื่อเรื่องโชคชะตาราศรีไหมคะ หลายท่านอาจตอบว่าเชื่อ หรือแม้ไม่เชื่อ ก็ไม่ลบหลู่ ดูได้จากคอลัมภ์ดวงชะตาของหนังสือพิมพ์ต่างๆ ซึ่งมักจะมีผู้อ่านมากที่สุด เมื่อเทียบกับข่าวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม การเมือง ตลอดจนเรื่องปากท้องของสำคัญในชีวิต วันนี้ขอมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเสริมโชคให้ตนเองในมุมมองของคุณ Jim Collins คนดังผู้เขียนหนังสือเรื่อง Good to Great และคุณ Anthony Tjan ซึ่งกำลังจะตีพิมพ์หนังสือเรื่องเกี่ยวกับคนโชคดีของนักธุรกิจทั่วโลก ว่าเขามีพฤติกรรม “กวัก” โชคอย่างไร ซึ่งจะพิมพ์เผยแพร่โดย Harvard Business Review Press ปลายปีนี้ ทั้งสองทำการศึกษาวิจัยองค์กรและผู้นำที่ประสบความสำเร็จโดดเด่นเป็นที่ริษยาตาร้อนจี๋ของคู่แข่งคู่คี่ที่ตัดพ้อต่อว่าชะตากรรมว่า ทำไมบางคนถึง “โชคดี” ไม่มีที่สิ้นสุด มีข่าวดีค่ะ นักวิจัยทั้งสองของเราเขายืนยันว่า ”โชค”ดูเหมือนเลื่อนลอย ลิขิตไม่ได้ จะมาก็มา จะไปก็ไป สำหรับคนส่วนใหญ่ กระนั้นก็ดี ผู้บริหารที่โชคดี เพราะเขาต่างมีพฤติกรรมนำโชคมาสู่ตนอย่างที่คนอื่นก็ทำได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ พฤติกรรมดังกล่าวมี 3 ประเด็นที่เห็นเด่นชัด คือ 1. Humility ความนอบ

เอสเอ็มอี “Go online” ให้ Success ในมุมมองของ @iczz @doctorpisak

รูปภาพ
ในยุคที่ใครๆ ต่างก็ลุกขึ้นมาสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ “Go online” แต่จะ “Go” แบบไหนไม่ให้แป้ก ไปร่วมหาทางคว้าชัยในสนาม “Online” ด้วยกัน --> การปรากฏตัวของเว็บไซต์ “Go online” ( http://www.goonline.in.th/ ) ผลผลิตจากโครงการ "ธุรกิจไทย Go Online" พันธกิจยักษ์ ที่ยกทัพโดย “Google” ธุรกิจสายพันธุ์มะกันร่วมกับพันธมิตรแดนสยาม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.),สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย, ดอท อะไร และเว็บบิส กำลังอ้าแขนต้อนรับ เอสเอ็มอี ไทยไปมี “ตัวตน” บนโลกออนไลน์ “จัดทำเว็บไซต์ได้รวดเร็วภายใน 15 นาที ง่าย และฟรี พร้อมเครือข่ายสนับสนุนระยะยาวทั่วประเทศ” กลายเป็นคำโฆษณาที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคน “มืดบอด” ในสนามออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่ไม่คุ้นกับโลกเทคโนโลยี และการตลาดดอทคอมมากนัก หากเป็นไปตามเป้า ภายใน 12 เดือนนับจากนี้ จะมีผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ไทยไม่ต่ำกว่า 50,000 ราย ก้าวเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์โดยฝีมือผู้ช่วยพระเอกอย่าง Google เหลี่ยมยุทธ์ของพวกเขา คือ รู้จุดอ่อนของ เอสเอ็มอี แล้วหาวิธีกำจัด และนั่นก็น่าจะเรียกความสนใจในการเข้ามา

รวมข่าว AEC : ต้องชูAECเป็นวาระแห่งชาติ ปั้นไทยแข่งอาเซียนรับเสรีปี'58

บี้รัฐผุดแผนรับ AEC ดันวาระแห่งชาติค้าปลีก เสนอตั้งหน่วยงานพิเศษดูแล สมาคมค้าปลีกจี้รัฐบาลใหม่ ดันค้าปลีกเป็นวาระแห่งชาติ เหตุสร้างรายได้สูงเป็นอันดับสองมากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เสนอตั้งหน่วยงานกลางควบคุมดูแลเหมือนท่องเที่ยวที่มี ททท. ปรับกำแพงภาษี รองรับเออีซี เผยเครือซีพีเตรียมผุดซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์ “ซีพีมาร์เก็ต” นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯต้องการให้ภาครัฐบาลผลักดันธุรกิจค้าปลีกให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมีนัย ซึ่งรัฐบาลควรวางมาตรการในการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจค้าปลีกอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้โดยเฉพาะในเอเซียด้วยกันเอง ที่จะมีการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนหรือ เออีซี/AEC ในปี 2558 นี้ รัฐบาลควรตั้งหน่วยงานกลางเฉพาะที่อิสระขึ้นมากำกับดูแล เช่นเดียวกับรกิจท่องเที่ยวที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เป็นหน่วยงานคอยดูแล เป็นต้น นอกจากนี้เรื่องกฎหมายควบคุมค้าปลีก รัฐบาลควรทำการปรับปรุงแก้ไขตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ใช