MedicalHub โอกาสทองของธุรกิจ SME ไทย(ตอนที่ 2)

การเป็น Medical Hub ของไทย ... นำมาซึ่งโอกาสของหลากธุรกิจ


จากปัจจัยหนุนข้างต้น นอกจากจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอีกมากของธุรกิจการแพทย์ไทยแล้ว ยังมีธุรกิจอีกจำนวนมากที่มีโอกาสในการขยายตัว หรือได้รับอานิสงส์จากการเป็น Medical Hub ของไทย เพราะไม่เพียงแต่การเข้ามาใช้บริการของคนไข้ต่างชาติเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเข้ามาใช้บริการของนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ญาติหรือผู้ติดตามของคนไข้ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในลักษณะของการเป็นนักท่องเที่ยวด้วย โดยจากสถิติจะพบว่า ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประมาณร้อยละ 40 เป็นค่าใช้จ่ายด้านบริการทางการแพทย์ และอีกกว่าร้อยละ 60 จะเป็นค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ นอกจากนี้ โดยปกติแล้ว คนไข้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลในไทย 1 คน จะมีญาติหรือผู้ติดตามที่เดินทางมาด้วยประมาณ 2-4 คน ดังนั้น การผลักดันให้ไทยเป็น Medical Hub นั้น นับว่าเป็นโอกาสในการทำรายได้ของหลากหลายธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเป็น Medical Hub มีดังนี้

1 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจนำเที่ยว และธุรกิจที่พัก โดยเฉพาะ Boutique Hotel ซึ่งเป็นรูปแบบที่พักที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้น การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น รวมไปถึงญาติหรือผู้ติดตาม ที่เดินทางมาพร้อมกับคนไข้ชาวต่างชาติ ก็จะเอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อธุรกิจดังกล่าวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจประมาณ 2.9 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 15-20 ต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในไทยมากขึ้น




2 ธุรกิจสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะธุรกิจสปาและนวดแผนไทย นับว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพของทย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการเปิดตัวธุรกิจสปาขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่ธุรกิจนี้ก็ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจุบันที่เน้นปรับตัวในเรื่องเอกลักษณ์และบริการที่แตกต่าง ส่งผลให้ธุรกิจสปาและนวดแผนไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 20 ต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 50,000 ล้านบาท และเมื่อสอบถามไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย พบว่า สปาและนวดแผนไทยเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม และมองว่า สปาและนวดแผนไทยมีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ไทยเป็นเมืองหลวงแห่งสปาของเอเชีย” ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ธุรกิจสปาและนวดแผนไทยเท่านั้น ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา โดยเฉพาะสมุนไพรและเครื่องสำอางไทย ก็มีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย



3 ธุรกิจค้าปลีกและจำหน่ายของที่ระลึก ธุรกิจร้านอาหาร ที่อยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ หรืออยู่ตามย่านที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวจากการเป็น Medical Hub ของไทย โดยในระหว่างที่คนไข้ทำการรักษาอยู่นั้น ญาติหรือผู้ติดตามก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ ซึ่งการ Shopping ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม รวมไปถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึก นอกจากนี้ ด้วยความมีชื่อเสียงของอาหารไทยที่ดังไปทั่วโลก ก็นับว่าจูงใจให้ชาวต่างชาติสนใจที่จะมาลิ้มรสอาหารไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสร้างรายได้ให้กับธุรกิจค้าปลีกและจำหน่ายของที่ระลึกประมาณ 2.4 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 10-15 ต่อปี ในขณะที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 20 ต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในไทยมากขึ้น





1 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจนำเที่ยว และธุรกิจที่พัก โดยเฉพาะ Boutique Hotel ซึ่งเป็นรูปแบบที่พักที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้น การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น รวมไปถึงญาติหรือผู้ติดตาม ที่เดินทางมาพร้อมกับคนไข้ชาวต่างชาติ ก็จะเอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อธุรกิจดังกล่าวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจประมาณ 2.9 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 15-20 ต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในไทยมากขึ้น

2 ธุรกิจสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะธุรกิจสปาและนวดแผนไทย นับว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพของไทย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการเปิดตัวธุรกิจสปาขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่ธุรกิจนี้ก็ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจุบันที่เน้นปรับตัวในเรื่องเอกลักษณ์และบริการที่แตกต่าง ส่งผลให้ธุรกิจสปาและนวดแผนไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 20 ต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 50,000 ล้านบาท และเมื่อสอบถามไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย พบว่า สปาและนวดแผนไทยเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม และมองว่า สปาและนวดแผนไทยมีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ไทยเป็นเมืองหลวงแห่งสปาของเอเชีย” ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ธุรกิจสปาและนวดแผนไทยเท่านั้น ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา โดยเฉพาะสมุนไพรและเครื่องสำอางไทย ก็มีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย

3 ธุรกิจค้าปลีกและจำหน่ายของที่ระลึก ธุรกิจร้านอาหาร ที่อยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ หรืออยู่ตามย่านที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวจากการเป็น Medical Hub ของไทย โดยในระหว่างที่คนไข้ทำการรักษาอยู่นั้น ญาติหรือผู้ติดตามก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ ซึ่งการ Shopping ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม รวมไปถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึก นอกจากนี้ ด้วยความมีชื่อเสียงของอาหารไทยที่ดังไปทั่วโลก ก็นับว่าจูงใจให้ชาวต่างชาติสนใจที่จะมาลิ้มรสอาหารไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสร้างรายได้ให้กับธุรกิจค้าปลีกและจำหน่ายของที่ระลึกประมาณ 2.4 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 10-15 ต่อปี ในขณะที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 20 ต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในไทยมากขึ้น

ที่มา KSME Analysis


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลดหนังสือมานี มานะ ไฟล์ PDF ฟรี ขอบคุณ (ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net)

รวมมุกขำขำ มุกตลก มุกงานเลี้ยง มุกพิธีกร

K-SME Analysis ธุรกิจชานมไข่มุก จากไต้หวัน